CFD
คริปโตเคอเรนซีคืออะไร

CFD
คริปโตเคอเรนซีคืออะไร

คริปโตเคอเรนซีหรือสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในฐานะการเป็นหนึ่งในกลุ่มสินทรัพย์ที่มีการเทรดกันมากที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่เนื่องมาจากการมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางการเงินของโลก แรกเริ่มนั้นการเทรดคริปโตเคอเรนซีถือเป็นการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับคนในวงการเทคโนโลยีที่มีประสบการณ์ในการเทรด ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิธีการทำงานและลักษณะทางเทคนิคของสกุลเงินดิจิทัลเป็นอย่างดี ปัจจุบันนี้แนวความคิดดังกล่าวได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยบรรดาโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงต่างเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเทรดคริปโตเคอเรนซีผ่านตราสารต่างๆ ได้ เช่น สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD)

ในขณะที่นักลงทุนบางรายชอบที่จะเป็นเจ้าของคริปโตเคอเรนซี อาทิ Bitcoin (BTC) แต่หลายคนก็เลือกที่จะเทรดใน CFD แทน CFD ช่วยให้คุณสามารถทำข้อตกลงกับโบรกเกอร์ในช่วงเวลาที่กำหนดแทนที่จะเปิดสถานะโดยตรงในตลาด เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาของสัญญา จะมีการแลกเปลี่ยนส่วนต่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิด ก่อนดำเนินการเทรด CFD คริปโตเคอเรนซี สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ ถึงสาเหตุของความนิยมที่เพิ่มขึ้นและลักษณะของสกุลเงินนั้นๆ ที่มีการเทรด

การเทรดคริปโตเคอเรนซี
มีความแตกต่างอย่างไร

เนื่องจากคริปโตเคอเรนซีเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรม ควบคุมอุปทานหรือแม้แต่ดำเนินการโอน การเทรดคริปโตจึงแตกต่างจากการเทรดสินทรัพย์ดั้งเดิมอื่นๆ การเคลื่อนไหวของราคาในสกุลเงินดิจิทัลไม่ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองตามปกติเหมือนอย่างที่ส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดฟอเร็กซ์และตลาดหุ้น แต่คริปโตนั้นถูกขับเคลื่อนด้วยข่าวที่เกี่ยวข้องกับระเบียบการกำกับดูแล ชุมชนคริปโต และโครงการต่างๆ

รายงานต่างๆ เกี่ยวกับการควบคุมระเบียบการกำกับดูแลที่เป็นไปได้ หรือการยอมรับจากรัฐบาลและประเทศต่างๆ ความขัดแย้งภายในชุมชนคริปโตเกี่ยวกับการอัปเกรด การโจมตีการแลกเปลี่ยนคริปโต และการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญต่อมูลค่าของคริปโตเคอเรนซีทั้งสิ้น

ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาของคริปโตเคอเรนซี คือ

1. อุปทาน: จำนวนเหรียญทั้งหมดและอัตราที่ถูกปล่อย

2. มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด: มูลค่าของเหรียญที่มีอยู่ทั้งหมดและการคาดการณ์ความเคลื่อนไหวในอนาคต

3. ภาพลักษณ์: ภาพลักษณ์ที่ได้รับของคริปโตเคอเรนซีสกุลนั้นๆ และความนิยมในหมู่สถาบันและตลาดการเงิน

4. แอปพลิเคชัน: ความสามารถในการการประยุกต์ใช้งานและการผสานรวมคริปโตเคอเรนซีภายในโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่

5. เหตุการณ์และข่าวสารต่างๆ: เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับระเบียบการกำกับดูแล segment ดังกล่าว การละเมิดความปลอดภัย และการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ

How Do
คริปโตเคอเรนซี่
Work?

การเทรดคริปโตเคอเรนซีมีอะไรมากกว่าแค่การทำความคุ้นเคยกับตลาดคริปโตเคอเรนซี การเรียนรู้เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ทั้งเรื่องของประเภท คุณสมบัติการทำงาน และความเสี่ยงสูงใดๆ ที่เกี่ยวข้อง จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนที่สนใจในการเทรดคริปโตเคอเรนซี

คริปโตเคอเรนซีต่างจากสกุลเงินแบบดั้งเดิมทั่วไป (fiat currencies) ที่สามารถมองเห็นได้จริง คริปโตเคอเรนซีอย่างเช่น Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนทางอินเทอร์เน็ตที่ใช้ฟังก์ชันการเข้ารหัสลับ (Cryptographical) เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน สิ่งที่ทำให้สกุลเงินเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างสูงคือการกระจายอำนาจและมีภูมิคุ้มกันอย่างสูงต่อการควบคุมโดยรัฐบาลหรือธนาคารกลาง การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยให้สามารถโอนเหรียญเหล่านี้ได้อย่างปลอดภัยระหว่างสองฝ่ายผ่านคีย์ส่วนตัวและคีย์สาธารณะ เทคโนโลยีที่มีอยู่ช่วยให้สามารถโอนและเทรดคริปโตเคอเรนซีสกุลยอดนิยมต่างๆ ได้อย่างราบรื่น โดยมีค่าธรรมเนียมการดำเนินการน้อย

Bitcoin เป็นคริปโตเคอเรนซีสกุลแรกที่เปิดตัวในปี 2009 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากที่มูลค่าพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจาก $1,000 ในตอนต้นปี 2017 เป็นมากกว่า $19,000 ภายในสิ้นปีนั้นๆ ตามมาด้วยการเปิดตัวสัญญาซื้อขายล่วงหน้าใน Bitcoins จากตลาดที่มั่นคงเป็นที่ยอมรับ อย่างเช่น CBOE และ CME และได้รับการยอมรับเพิ่มขึ้นจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลก เมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของสกุลเงินทั่วไป (fiat currencies) ความสำเร็จที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ Bitcoin นั้นไม่เหมือนกับสิ่งที่เราเคยเห็นมาก่อน

ขณะนี้มีสกุลเงินดิจิตอลอื่นๆ (altcoins) มากกว่า 1,000 รายการ ซึ่งเป็นทางเลือกนอกเหนือจาก Bitcoin แต่ไม่ใช่ทั้งหมดทุกสกุลที่นำเสนอโอกาสในการเทรดที่ดี ปัจจุบันมีสกุลเงินดิจิทัลจำนวนจำกัดเท่านั้นที่มีการเทรดกันอย่างเพียงพอที่จะมีสภาพคล่องที่แท้จริง คริปโตเคอเรนซีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่

  • Bitcoin (BTC) คริปโตดั้งเดิม

  • Bitcoin Cash (BCH) ฮาร์ดฟอร์กตัวแรกในเครือข่ายดั้งเดิมของ Bitcoin

  • Ethereum (ETH) เป็นโครงการที่มีความทะเยอทะยาน ซึ่งทำงานในลักษณะที่แตกต่างออกไป

  • Litecoin (LTC) เหรียญ alt ที่รองรับการชำระเงินข้ามพรมแดน

  • Ripple (XRP) ถูกนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความเร็วของโซลูชันการชำระเงินระหว่างประเทศ

  • Neo (NEO) แพลตฟอร์มบล็อกเชนที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งรองรับคริปโตเคอเรนซีของตนเอง

How to Trade in
คริปโตเคอเรนซี่

โอกาสในการเทรดคริปโตเคอเรนซีทำได้หลายทาง ดังนี้

1. การซื้อจริง

สามารถใช้สกุลเงินทั่วไปที่มีอยู่ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD), ปอนด์อังกฤษ (GBP) หรือดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ซื้อสกุลเงินดิจิทัลได้ คริปโตหลายรายการมีในจำนวนจำกัด รวมถึง Bitcoin ซึ่งถูกจำกัดไว้ที่ 21 ล้านเหรียญ ปัจจุบันนี้มี Bitcoin เข้าสู่การหมุนเวียนในระบบกว่า 18 ล้านเหรียญ และโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์หลายแห่งต่างยอมรับให้มีการเทรดสกุลเงิน Bitcoins ได้แล้ว

การซื้อหรือขายสกุลเงินดิจิทัลจริงๆ นั้นได้รับการอำนวยความสะดวกโดยตลาดคริปโตเคอเรนซีที่มีการเทรดสกุลเงินนั้นๆ ทั้งนี้ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกตลาดในการเทรดสกุลเงินดิจิทัล ได้แก่ ชื่อเสียง, ความปลอดภัยที่นำเสนอ, ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บ, ตัวเลือกการชำระเงิน และข้อกำหนดในการยืนยันบัญชี

2. กองทุนเพื่อการลงทุน

อีกวิธีหนึ่งในการลงทุนในคริปโตเคอเรนซีคือ การดำเนินการตามเส้นทางของกองทุนคริปโต อาทิ Bitcoin Cash Investment Trust หรือ Ethereum Investment Trust กองทุนเหล่านี้ลงทุนใน Initial Coin Offerings (ICOs) และคริปโตเคอเรนซีอื่นๆ โดยกองทุนเหล่านี้ได้รับการยอมรับว่าทำกำไรได้ทั้งรวดเร็วและมีสภาพคล่องสูงกว่า ทั้งนี้การจ้างผู้จัดการกองทุนมืออาชีพหมายถึงการมีค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมที่เพิ่มมากขึ้น

3. กองทุนดัชนีคริปโต

ความนิยมของสกุลเงินดิจิทัลนั้นได้เห็นจากการเปิดตัวของกองทุนดัชนีคริปโตเคอเรนซี กองทุนเหล่านี้คล้ายกับกองทุนดัชนีในตลาดการเงิน เพียงแต่มุ่งเน้นไปที่สินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างเช่น หุ้นและพันธบัตร คริปโตเคอเรนซีที่ได้รับเลือกจะถูกจัดกลุ่มเข้าด้วยกันและถ่วงน้ำหนักเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด Crypto-10 ได้รับการยอมรับว่าเป็นกองทุนดัชนีคริปโตเคอเรนซีมาตรฐานและมักใช้เพื่อวัดความผันผวนและแนวโน้มของสกุลเงินเสมือนโดยรวม

4. การเทรด CFD

วิธีง่ายๆ ในการเทรดคริปโตเคอเรนซีคือดำเนินการผ่านโบรกเกอร์ แทนที่จะเปิดวอลเล็ตดิจิทัลเพื่อจัดเก็บเหรียญจริงและเทรดในตลาดคริปโตเคอเรนซี คุณสามารถทำธุรกรรมกับโบรกเกอร์ที่มั่นคงเป็นที่ยอมรับและมีชื่อเสียงซึ่งนำเสนอการเทรดสกุลเงินคริปโตเคอเรนซีผ่านบัญชีการเทรด CFD ได้ การเทรด CFD ช่วยให้เทรดเดอร์มีความยืดหยุ่นในการเปิด Long และเปิด Short เนื่องจากพวกเขาจะเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาคริปโตในอนาคต

การตัดสินใจที่จะซื้อผ่านตลาดหรือเทรดคริปโตเคอเรนซีผ่านโบรกเกอร์นั้นจะขึ้นอยู่กับว่า:

1. คุณต้องการเป็นเจ้าของคริปโตเคอเรนซีหรือไม่

2. คุณยินดีที่จะจ่ายคริปโตล่วงหน้าเต็มมูลค่าหรือไม่

3. คุณมีบัญชีตลาดคริปโตหรือไม่

4. คุณพร้อมที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการฝากและถอนเงินหรือไม่

5. คุณมีวอลเล็ตดิจิทัลหรือไม่

6. คุณไม่ต้องการใช้เลเวอเรจใช่หรือไม่

เช่นเดียวกับการเทรดทุกรูปแบบ การเทรดคริปโตเคอเรนซีนั้นจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับตลาดและการใช้กลยุทธ์การเทรดที่ผ่านการทดสอบแล้ว
ความเข้าใจที่ครอบคลุมจะช่วยให้สามารถประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ดีกว่า

What are
Cryptocurrency CFDs?

CFD หรือสัญญาซื้อขายส่วนต่างเป็นวิธีที่ดึงดูดใจในการเทรดกลุ่มสินทรัพย์ทุกประเภท เนื่องจากไม่ได้เป็นการซื้อสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องจริงๆ CFD ช่วยให้สามารถเก็งกำไรจากมูลค่าสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคตได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของจริงๆ CFD คริปโตเคอเรนซีช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของมูลค่าคริปโตเคอเรนซีที่เฉพาะเจาะจงในอนาคตได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถเปิดสัญญาเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของคริปโตที่สัมพันธ์กับสกุลเงินทั่วไป อาทิ ดอลลาร์สหรัฐและดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือคริปโตอื่นๆ เช่น Bitcoin เทียบกับ Ethereum

คำศัพท์ทั่วไปที่ใช้ในการเทรด CFD สกุลเงินคริปโต ได้แก่

  • ราคาเสนอขาย: นี่คือราคาที่สามารถซื้อ CFD ได้

  • ราคาเสนอซื้อ: นี่คือราคาที่สามารถขาย CFD ได้

  • สเปรด: นี่คือส่วนต่างระหว่างราคาเสนอขายและราคาเสนอซื้อสำหรับสินทรัพย์อ้างอิงของ CFD สเปรดคือค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมของเทรดเดอร์และจะหักออกจากกำไรโดยรวมหรือบวกกับผลขาดทุนโดยรวมที่เกิดขึ้น ดังนั้นยิ่งสเปรดต่ำมากเท่าไร ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมของเทรดเดอร์ก็จะยิ่งต่ำลงเท่านั้น

  • มาร์จิ้น: นี่คือจำนวนเงินที่ต้องฝากเพื่อใช้เปิดสถานะ CFD

  • เลเวอเรจ: ช่วยให้ผู้คนสามารถเทรด CFD คริปโตเคอเรนซีได้ในมูลค่าที่สูงกว่าเงินทุนในบัญชีการเทรดของตน เลเวอเรจช่วยให้เทรดเดอร์ใช้ประโยชน์จากความเสี่ยงได้มากขึ้นโดยการฝากเงินเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการเทรดทั้งหมด เครื่องมือนี้ช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับผลกำไรมากขึ้นหากราคาเคลื่อนไหวเป็นผลดีต่อพวกเขา แต่จะทำให้พวกเขาขาดทุนมากขึ้นในกรณีที่ราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางลบ

  • การเปิด Long: เมื่อเทรดเดอร์เปิดสถานะซื้อสำหรับ CFD โดยคาดหวังว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะมีการเพิ่มขึ้น จะเรียกว่า การเปิด Long

  • การเปิด Short: เมื่อเทรดเดอร์เปิดสถานะขาย โดยคาดหวังว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลง จะเรียกว่า การเปิด Short

  • Stop Loss: เครื่องมือนี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถกำหนดระดับราคาที่จะปิดสถานะ CFD ของตนล่วงหน้าได้ เครื่องมือนี้ช่วยในการลดการขาดทุน หากตลาดเคลื่อนไหวตรงข้ามกับทิศทางที่คาดการณ์ไว้

  • Take Profit: เครื่องมือนี้เป็นคำสั่งปิดสถานะของเทรดเดอร์เมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดไว้ เพื่อช่วยรักษาผลกำไรไว้ก่อนที่ตลาดจะเคลื่อนไหวสวนทางกับระดับที่คาดการณ์ไว้

สิทธิประโยชน์ของ
การเทรด CFD คริปโตเคอเรนซีคืออะไร

ผู้ที่ดำเนินการเทรด CFD จะแลกเปลี่ยนส่วนต่างของราคาคริปโตเคอเรนซีหรือสินทรัพย์อื่นๆ ระหว่างสถานะเปิดและสถานะปิด ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์เปิดสถานะ Long และมูลค่าของคริปโตเคอเรนซีที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น พวกเขาก็จะได้รับผลกำไร ในทางตรงกันข้ามหากมูลค่าลดลง พวกเขาก็จะขาดทุน ในทำนองเดียวกันหากเทรดเดอร์เชื่อว่ามูลค่าของคริปโตเคอเรนซี อาทิ Bitcoin จะลดลงในอนาคต พวกเขาอาจเข้าเทรดสถานะ Short การคาดการณ์ที่แม่นยำจะสร้างผลกำไร แต่ถ้ามูลค่าของคริปโตเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้เกิดการขาดทุน

การเทรด CFD เป็นที่นิยมอย่างมากด้วยเหตุผลหลายประการ ดังนี้

ไม่จำเป็นต้องมีวอลเล็ตดิจิทัล: การเทรด CFD คริปโตเคอเรนซีไม่จำเป็นต้องที่คุณจะต้องมีวอลเล็ตดิจิทัลหรือลงทะเบียนกับตลาด นอกจากนี้เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการถือครองสกุลเงินดิจิทัลจริงๆ หรือต้องคอยเก็บรักษาให้ปลอดภัย


ภัยคุกคามความปลอดภัยต่ำ: CFD มักจะปลอดภัยกว่าการซื้อคริปโตเคอเรนซีจริงจากตลาด การดำเนินการเทรดผ่าน โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการจดทะเบียนจะให้การป้องกันที่ดีจากการสูญเสียเงินทุนหรือจากการฉ้อโกง เช่น การแฮ็กความปลอดภัย


ความผันผวนและการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว: คริปโตเคอเรนซีได้รับการยอมรับว่าเป็นตลาดที่มีความผันผวนและไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเป็นความผันผวน แต่การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของราคานั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถดึงดูดใจ การเทรด CFD คริปโตควรอาศัยกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมที่ได้รับการพัฒนาหลังจากการศึกษาวิจัยอย่างละเอียดแล้ว


การเทรดได้อย่างต่อเนื่อง: ไม่มีชั่วโมงการเทรดสำหรับการเทรดคริปโตเคอเรนซี การไม่มีอำนาจควบคุมแบบรวมศูนย์หมายความว่า สามารถเทรดคริปโตเคอเรนซีได้ตลอดเวลา โดยทั่วไปแล้วธุรกรรมเหล่านี้มักเกิดขึ้นโดยตรงระหว่างบุคคลธรรมดาในตลาดคริปโตเคอเรนซีทั่วโลก อย่างไรก็ตามการปรับเพื่ออัปเดตโครงสร้างพื้นฐานหรือฟอร์กอาจทำให้เกิดช่วงเวลาหยุดทำงาน ทั้งนี้คุณสามารถเทรดคริปโตเคอเรนซีกับสกุลเงินทั่วไปได้ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ


การเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา: การเทรด CFD คริปโตเคอเรนซี เทรดเดอร์สามารถเปิด Long หรือ Short ได้โดยขึ้นอยู่กับความเข้าใจหรือการประเมินการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต

การใช้เลเวอเรจ: การเทรด CFD มีเลเวอเรจและอนุญาตให้เทรดเดอร์เปิดสถานะด้วยมาร์จิ้น ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากความเสี่ยงในตลาดคริปโตเคอเรนซีได้มากขึ้น ในขณะที่จ่ายหรือฝากเงินเพียงเศษเสี้ยวของมูลค่าการเทรดทั้งหมดเท่านั้น การเทรดโดยใช้มาร์จิ้นนี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้มากขึ้นจากการลงทุนที่ค่อนข้างน้อย แต่ก็สามารถทำให้ขาดทุนได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นเทรดเดอร์จึงต้องระมัดระวังและตัดสินใจอย่างชาญฉลาด โดยต้องคำนึงถึงระดับความเสี่ยงที่ทนรับได้


การใช้แพลตฟอร์มขั้นสูง: CFD คริปโตเคอเรนซีสามารถเทรดได้อย่างง่ายดายผ่านแพลตฟอร์มการเทรดขั้นสูง อย่างเช่น MetaTrader 4 และ 5 ที่มาพร้อมกับอินเทอร์เฟซที่ปรับแต่งได้ แพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้การเทรดเป็นเรื่องง่าย แต่ยังมีเครื่องมือทางเทคนิคมากมายเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น

การเทรดคริปโตเคอเรนซี
มีขั้นตอนดำเนินการอย่างไรบ้าง

ความชัดเจนเกี่ยวกับการทำงานของตลาดคริปโตเคอเรนซี ปัจจัยที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา ทางเลือกในการเทรดที่มีอยู่ ล้วนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องการเทรดสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งควรจะนำไปสู่การตัดสินใจเกี่ยวกับโหมดของการเทรด ไม่ว่าจะผ่านการซื้อคริปโตโดยตรงหรือเทรดผ่านกองทุนคริปโต หรือ CFD หากคุณตัดสินใจที่จะเทรดผ่าน CFD คุณต้องมองหาโบรกเกอร์ที่มั่นคงเป็นที่ยอมรับ ซึ่งให้การสนับสนุนลูกค้าและนำเสนอแหล่งข้อมูลการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยม ตลอดจนมีให้บริการบัญชีทดลองเพื่อช่วยให้คุณคุ้นเคยกับความแตกต่างของ CFD คริปโตเคอเรนซี

ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องในการเทรดสกุลเงินดิจิทัลมีดังนี้

ขั้นตอนที่ 1:
Finding a Good
โบรกเกอร์

นี่เป็นขั้นตอนที่จำเป็นและสำคัญที่สุดสำหรับเส้นทางการเทรด CFD คริปโตเคอเรนซีของคุณ คุณควรเลือกโบรกเกอร์ที่มั่นคงได้รับการยอมรับและมีการกำกับดูแลเพื่อความปลอดภัยของเงินทุนของคุณและปฏิบัติตามระเบียบการกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ปัจจัยบางประการที่ต้องพิจารณาในการเลือกโบรกเกอร์ที่ดีสำหรับ CFD คริปโตเคอเรนซีนั้น ได้แก่

  • เลือกหน่วยงานที่ได้รับการกำกับดูแล: เทรดเดอร์ควรมองหาโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแล และอ่านคำชี้แจงการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์ (PDS) ก่อนที่จะเปิดบัญชีและเทรดด้วยบัญชีจริง ในประเทศออสเตรเลียโบรกเกอร์จะต้องถือใบอนุญาตให้บริการทางการเงินของออสเตรเลีย (AFSL) ในขณะที่ในสหราชอาณาจักรนั้น บริการทางการเงินจะอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ Financial Conduct Authority (FCA)

  • ตรวจสอบชื่อเสียง:ประวัติและชื่อเสียงของโบรกเกอร์ควรได้รับการพิจารณา ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการแยกเงินทุนของลูกค้าต่างหาก โดยแยกออกจากเงินทุนส่วนของโบรกเกอร์ เลือกโบรกเกอร์ที่รับรองการตรวจสอบบัญชีการเงินอย่างสม่ำเสมอผ่านบริษัทตรวจสอบภายนอก นอกเหนือจากการให้ใบแจ้งยอดบัญชีปกติแก่ลูกค้า

  • เลเวอเรจ: เลเวอเรจเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อดำเนินการเทรด CFD ซึ่งไม่ควรเพียงแค่เลือกโบรกเกอร์ที่นำเสนอการเทรดที่ใช้เลเวอเรจสูงๆ แต่ให้เลือกโบรกเกอร์ที่นำเสนอระดับเลเวอเรจที่คุณพอใจ

  • ตรวจสอบทางเลือกในการเทรดและคริปโตเคอเรนซีสกุลที่ครอบคลุม: จำเป็นจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าทางเลือกในการเทรดที่โบรกเกอร์นำเสนอนั้นรวมถึงคริปโตเคอเรนซีสกุลที่คุณต้องการเทรดด้วย

  • แพลตฟอร์มการเทรด:เลือกใช้โบรกเกอร์ที่นำเสนอแพลตฟอร์มการเทรดที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ เช่น MetaTrader 4 หรือ MetaTrader 5 แพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายเหล่านี้มาพร้อมกับเครื่องมือและทรัพยากรในตัวที่ทำให้ขั้นตอนการเทรดคริปโตเคอเรนซีทั้งหมดง่ายและราบรื่น

  • สเปรด: สเปรดและค่าคอมมิชชันที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจะเป็นตัวกำหนดค่าใช้จ่ายในการเทรด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องพิจารณาก่อนที่คุณจะเปิดบัญชี

  • คุณภาพของบริการ:บริการสนับสนุนลูกค้ามีความสำคัญมากสำหรับเทรดเดอร์ที่เพิ่งเริ่มต้นเทรด CFD และอาจต้องการความช่วยเหลือเป็นครั้งคราว ดังนั้นให้เลือกโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านบริการช่วยเหลือลูกค้าที่ยอดเยี่ยม

  • ง่ายต่อการชำระเงิน: สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ตรวจสอบตัวเลือกการชำระเงินที่โบรกเกอร์นำเสนอ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถฝากหรือถอนเงินจากบัญชีของคุณได้อย่างทันท่วงที

ขั้นตอนที่ 2:
การเปิดบัญชี

เมื่อคุณกำหนดโบรกเกอร์สำหรับการเทรด CFD ของคุณแล้ว คุณจะต้องเปิดบัญชีการเทรด โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ยินยอมให้ใช้บัญชีทดลองก่อนเพื่อให้คุณคุ้นเคยกับแพลตฟอร์ม เครื่องมือ และจังหวะการเทรด จากนั้นสามารถอัปเกรดเป็นบัญชีจริงที่สามารถฝากเงินได้

ขั้นตอนที่ 3:
Building a
Trading Plan

เมื่อคุณได้เลือกตราสารการเทรดของคุณแล้ว คุณจำเป็นต้องทำการศึกษาวิจัยเพื่อกำหนดแผนการเทรด เนื่องจากการเทรดคริปโตเคอเรนซีมีความผันผวน คุณจึงต้องพัฒนาแผนการเทรดหลังจากพิจารณาความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ระบุเป้าหมายของคุณ ระบุความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ จากนั้นร่างกลยุทธ์การเทรดที่รวมถึงมาตรการต่างๆ เช่น ระดับ stop loss และ take profit คุณสามารถใช้ทรัพยากรที่โบรกเกอร์ของคุณจัดหาให้หรือตัวเลือกที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มการเทรดของคุณเพื่อทำการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด

ขั้นตอนที่ 4:
เริ่มต้นเทรด

เมื่อคุณมีกลยุทธ์พร้อมแล้ว คุณต้องดำเนินการและเข้าเทรดสถานะ Long / Buy หรือ Short / Sell โดยขึ้นอยู่กับความคาดหวังของคุณเกี่ยวกับทิศทางราคาในอนาคต ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเทรด Bitcoin, Ripple หรือ Ethereum คุณต้อง:

  • ตรวจสอบราคาเสนอขายและราคาเสนอซื้อ

  • กำหนดขนาดสถานะการเทรดของคุณ โดยคำนึงถึงเลเวอเรจที่นำเสนอ ค่าสเปรดที่เรียกเก็บ และระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้

  • ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือต่างๆ เช่น คำสั่ง stop loss และ limit และนำไปใช้ในกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงของคุณ

  • เมื่อคุณเข้าเทรดสถานะแล้ว ให้ตรวจสอบผลกำไรหรือขาดทุนในส่วนสถานะที่เปิดอยู่ของแพลตฟอร์มการเทรด

  • ปิดสถานะเมื่อคุณบรรลุเป้าหมายของคุณ

มีวิธีจัดการความเสี่ยงที่
เกี่ยวข้องกับการเทรด CFD
คริปโตเคอเรนซีอย่างไร

ลักษณะของคริปโตเคอเรนซีที่มีความผันผวนสูงทำให้การเทรดมีความเสี่ยงสูง แต่กลยุทธ์การเทรดที่มีการวางแผนไว้อย่างดีและการติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจะสามารถช่วยให้เทรดเดอร์จัดการกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องได้ การลดความเสี่ยงและการบริหารความเสี่ยง รวมถึงการล็อกผลกำไรนั้นสามารถทำได้โดยการตั้งค่าระดับ stop หรือ limit อัตโนมัติ นอกเหนือจากการกำหนดระดับที่คุณต้องการปิดการเทรดของคุณ

นอกเหนือจากนั้น คุณควร:

  • รักษามาร์จิ้นในบัญชีการเทรดของตนให้เพียงพออยู่เสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดสถานะโดยไม่คาดคิด เนื่องจากเงินทุนไม่เพียงพอ

  • ตั้งค่าการแจ้งเตือนราคา เพื่อจะได้ทราบเมื่อราคาคริปโตเคอเรนซีมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้

  • ติดตามบัญชีของคุณและการเคลื่อนไหวของราคาอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว

  • ใช้เลเวอเรจเสมอ โดยคำนึงถึงความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ

ดังนั้นความรู้ความเข้าใจดีเกี่ยวกับการทำงานของคริปโตเคอเรนซีสกุลต่างๆ ปัจจัยที่มีผลต่อคริปโตเหล่านั้น และกลยุทธ์การเทรดที่ดี รวมถึงมาตรการบริหารความเสี่ยงที่เพียงพอ จะช่วยให้เทรดเดอร์ได้สัมผัสกับเส้นทางการเทรดคริปโตที่น่าพอใจ

เริ่มต้นเทรด
ได้ในไม่กี่นาที

bullet เข้าถึงตราสารทางการเงินกว่า 10,000 รายการ
bullet เปิดและปิดสถานะอัตโนมัติ
bullet ข่าวสารและปฏิทินเศรษฐกิจ
bullet เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและกราฟ
bullet มีเครื่องมือเพิ่มเติมอีกมากมาย

การให้อีเมลของคุณ แสดงถึงว่าคุณยอ มรับในนโยบายความเป็ นส่วนตัวของ FP Markets และจะรับสื่อการตลาดในอนาคตจาก FP Markets คุณสามารถยกเลิกการสมัครรับได้ทุกเมื่อ




Source - database | Page ID - 20303

Get instant Updates in Telegram