ฉันจะเริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์ได้อย่างไร
วิธีเริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์

How to Get
Started with
Forex ได้อย่างไร?

ตลาดฟอเร็กซ์ (ย่อมาจากตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ) เคลื่อนไหวรวดเร็วและการทำความเข้าใจอาจจะยากเป็นพิเศษหากคุณเป็นมือใหม่เพราะมีหลายสิ่งให้เรียนรู้และหากคุณมีความคาดหวังที่เกินจริง คุณก็น่าจะผิดหวังกับผลลัพธ์ การเทรดฟอเร็กซ์ (หรือการเทรดค่าเงิน) ไม่ใช่แผนการรวยเร็ว แต่ต้องใช้วิธีที่มีวินัยและคิดอย่างรอบคอบหากคุณต้องการประสบความสำเร็จ แม้ไม่มีวิธีสากลในการทำสิ่งต่างๆ แต่สิ่งต่อไปนี้เป็นหลักสำคัญบางอย่างที่คุณควรรู้เพื่อเริ่มเทรดฟอเร็กซ์

วิธีเริ่มต้น
เทรดฟอเร็กซ์

1. Determine How You
Want to Trade

มีวิธีเทรดฟอเร็กซ์สองวิธี ได้แก่ การเทรดสปอตฟอเร็กซ์หรือการเทรดผ่าน CFD:

การเทรดสปอตฟอเร็กซ์ เป็นการซื้อและขายสกุลเงินจริงที่คุณกำลังเทรด ตัวอย่างเช่น คุณสามารถซื้อเงินยูโรจำนวนหนึ่ง จากนั้นเมื่อค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้น คุณจะสามารถขายทำกำไรได้

การเทรด CFD แตกต่างไป CFD (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) เพราะเป็นสัญญาระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายที่กำหนดว่าผู้ซื้อจะชำระส่วนต่างระหว่างมูลค่าสินทรัพย์ปัจจุบันกับมูลค่าสินทรัพย์ในวันที่ในอนาคตให้แก่ผู้ขาย ในกรณีของฟอเร็กซ์นั้น CFD จะช่วยให้เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของค่าเงินได้โดยไม่ต้องซื้อและขายสกุลเงิน

2. Know the Currencies
You Can Trade

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์มีสามกลุ่ม ได้แก่ คู่หลัก คู่รอง และคู่ประเทศตลาดใหม่ (Exotic) คู่สกุลเงินหลักเป็นการจับคู่ดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) กับสกุลเงินหนึ่งในเจ็ดสกุลที่เทรดบ่อยที่สุด ได้แก่: EUR, GBP, JPY, CHF, CAD, AUD และ NZD

คู่หลัก
EUR / USD
GBP / USD
AUD / USD
NZD / USD
USD / JPY
USD / CHF
USD / CAD

คู่หลักมีสัดส่วน 85% ของตลาดฟอเร็กซ์ จึงมีสภาพคล่องสูงซึ่งช่วยให้การเทรดมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคู่รองและคู่ประเทศตลาดใหม่ ส่วนคู่รองเป็นการจับคู่สกุลเงินหลักสองสกุลยกเว้น USD

คู่รอง
EUR / CHF EUR / GBP
EUR / CAD EUR / AUD
EUR / NZD EUR / JPY
GBP / CHF GBP / JPY
GBP / AUD GBP / CAD
GBP / NZD CHF / JPY
CAD / JPY AUD / JPY
NZD / JPY AUD / CHF
AUD / CAD AUD / NZD

สุดท้ายคือคู่สกุลเงินประเทศตลาดใหม่ที่มีหนึ่งสกุลเงินหลักและหนึ่งสกุลเงินประเทศตลาดใหม่ ตัวอย่างสกุลเงินประเทศตลาดใหม่ เช่น HKD, NOK, ZAR, และ THB คู่ประเทศตลาดใหม่มีสภาพคล่องต่ำ จึงมีแนวโน้มที่จะมีค่าใช้จ่ายในการเทรดมากกว่าเมื่อเทียบกับคู่หลักและคู่รอง แต่จะมีความผันผวนสูง หมายความว่าให้โอกาสในการสร้างรายได้ที่มากกว่า

หมายเหตุ: ในคู่สกุลเงิน สกุลเงินแรกจะเรียกว่าสกุลเงินฐาน และสกุลเงินที่สองคือสกุลเงินที่โควต ตัวอย่างเช่น ใน EUR/USD นั้น EUR เป็นสกุลเงินฐานและ USD เป็นสกุลเงินที่โควต

3. Understand How the
Market is Analysed

การเทรดฟอเร็กซ์เป็นการใช้ประโยชน์จากความเคลื่อนไหวของราคา โดยคุณต้องวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เพื่อทำความเข้าใจ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การวิเคราะห์สำคัญต่อการเทรด วิธีวิเคราะห์ฟอเร็กซ์มีหลายวิธี แต่วิธีที่สำคัญสองวิธี ได้แก่ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

การวิเคราะห์รูปแบบนี้เป็นการติดตามประเด็นและเหตุการณ์สำคัญทั่วโลกเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์มหภาค การเมือง ธุรกิจ ฯลฯ ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งอาจส่งผลต่อค่าเงินที่คุณต้องการเทรด ข้อมูลชี้วัดบางส่วนที่มีผลกระทบต่อตลาดฟอเร็กซ์มากที่สุด ได้แก่:

  • ข้อมูลการจ้างงานที่รวมถึงอัตราการว่างงาน

  • ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)

  • อัตราดอกเบี้ยของธนาคารระหว่างประเทศ

  • ยอดค้าปลีก

  • อัตราเงินเฟ้อ

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ขณะที่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมุ่งเน้นที่ประเด็นและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะมุ่งเน้นที่การวิเคราะห์กราฟการเทรด กราฟเหล่านี้จะแสดงความเคลื่อนไหวของราคาในระยะเวลาหนึ่งและช่วยให้เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์สามารถระบุรูปแบบและตัดสินใจในการเทรดตามการสันนิษฐานที่ว่ารูปแบบมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นซ้ำในอนาคต

4. Know How Forex
Quotes Work

เมื่อคุณเทรดฟอเร็กซ์ คุณต้องรู้ว่าโควตราคาเสนอซื้อ-เสนอขายทำงานอย่างไร ราคาที่คุณขายคู่สกุลเงินจะเรียกว่า ‘ราคาเสนอซื้อ’ ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาดเล็กน้อยเสมอ ส่วนราคาที่คุณจ่ายเพื่อซื้อคู่สกุลเงินจะเรียกว่า ‘ราคาเสนอขาย’ ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดเล็กน้อยเสมอ ทั้งนี้ ราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขายที่โควตจะอ้างอิงตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน

ตัวอย่างเช่น หากอัตราแลกเปลี่ยน GBP/USD ในปัจจุบันอยู่ที่ 1.3010 คุณจะพบว่าโควตราคาเสนอซื้อ-เสนอขายอยู่ที่ 1.3012/1.3014 หมายความว่าคุณสามารถซื้อ GBP/USD ที่ 1.3014 และขายที่ 1.3012

5. Understand the Basic
Concept of Forex Trading

แนวคิดพื้นฐานของการเทรดฟอเร็กซ์เป็นการซื้อและขายสกุลเงินสองสกุลในเวลาเดียวกันเพื่อใช้ประโยชน์จากความเคลื่อนไหวของค่าเงินแล้วทำกำไร หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้การเทรดฟอเร็กซ์ได้รับความนิยมสูงก็คือข้อเท็จจริงที่ว่าคุณอาจทำกำไรได้ทั้งแนวโน้มขาขึ้นและขาลง

แนวโน้มขาขึ้น

ในการเทรดโดยซื้อหรือที่รู้จักในอีกชื่อว่าการเทรดแบบ Long คุณจะซื้อคู่สกุลเงินโดยหวังว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นจนคุณสามารถขายในราคาที่สูงขึ้นและทำกำไรจากส่วนต่าง ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อ EUR/USD ที่ 1.1250 และการเทรดปิดที่ 1.1310 คุณจะได้กำไร 0.006 หรือ 60 pips

คำศัพท์สำคัญ: Pip (point in percentage) เป็นจำนวนที่เล็กที่สุดที่ราคาสกุลเงินสามารถเปลี่ยนแปลงได้ สำหรับคู่สกุลเงินที่มี USD ปกติจะอยู่ที่ $0.0001 แต่สำหรับคู่อื่นๆ เช่น JPY จะอยู่ที่ $0.001

แนวโน้มขาลง

ในทางกลับกัน การเทรดโดยขายหรือที่รู้จักในอีกชื่อว่าการเทรดแบบ Short คุณจะขายคู่สกุลเงินโดยหวังว่ามูลค่าจะลดลงจนคุณสามารถซื้อในราคาที่ต่ำกว่าและทำกำไรได้บางส่วน ตัวอย่างเช่น หากคุณขาย EUR/USD ที่ 1.1245 และการเทรดปิดที่ 1.1213 คุณจะได้กำไร 0.0032 หรือ 32 pips

6. ศึกษาเรื่อง
ค่าใช้จ่ายในการเทรด

โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ส่วนใหญ่จะเรียกเก็บเพียงสเปรดเท่านั้น ซึ่งต่างจากโบรกเกอร์ในตลาดเงินอื่นๆ ที่เรียกเก็บทั้งค่าคอมมิชชันและสเปรดจากเทรดเดอร์ ทำให้ตลาดฟอเร็กซ์เข้าถึงได้มากกว่าและน่าสนใจกว่าสำหรับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์

สเปรดคือส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขายของคู่สกุลเงิน ตัวอย่างเช่น หากราคาเสนอซื้อ EUR/USD อยู่ที่ 1.1351 และราคาเสนอขายอยู่ที่ 1.1356 สเปรดจะเท่ากับ 0.0005 หรือ 5 pip การเทรดที่สเปรดต่ำมักเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จเพราะจะเท่ากับค่าใช้จ่ายในการเทรดต่ำและโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์กำลังตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องนี้โดยเสนอสเปรดต่ำพิเศษ ซึ่งบางแห่งเริ่มต้นต่ำเพียง 0.0 pip

7. เลือกโบรกเกอร์

With so many brokers to choose from, the broker selection process can be overwhelming. However, considering the following top criteria when making your choice should simplify the process.

กฎข้อบังคับ โบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจะรับประกันว่าเงินของคุณปลอดภัย


คุณภาพในบริการของโบรกเกอร์ ระบบที่ช้าซึ่งหยุดทำงานเป็นประจำและทีมสนับสนุนที่ดำเนินการอย่างเชื่องช้าจะทำลายโอกาสประสบความสำเร็จของคุณในตลาดฟอเร็กซ์ที่มีการแข่งขันสูง ดังนั้น ให้มองหาโบรกเกอร์ที่เสนอสเปรดต่ำ เงินฝากขั้นต่ำที่เหมาะกับคุณ การสนับสนุนลูกค้าที่ดีเยี่ยมและความรวดเร็วในการดำเนินการ

แพลตฟอร์มการเทรดและเครื่องมือที่เสนอ คุณภาพของแพลตฟอร์มการเทรดฟอเร็กซ์และเครื่องมือที่โบรกเกอร์ให้บริการสามารถสร้างความแตกต่างให้ประสบการณ์เทรดของคุณ เมื่อประเมินแพลตฟอร์มการเทรดฟอเร็กซ์ที่ให้บริการ ให้พิจารณาสิ่งต่างๆ เช่น ความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย ความสามารถในการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ในตัว และการบริหารจัดการบัญชีอิสระ Metatrader 4 (MT4), Metatrader 5 (MT5) และ Webtrader เป็นสามแพลตฟอร์มการเทรดฟอเร็กซ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในทั่วโลกและให้บริการโดยโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุด


ความสามารถในการใช้แหล่งข้อมูลการศึกษา การศึกษาที่ต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาตัวคุณเองในฐานะเทรดเดอร์ใหม่ และคุณต้องการโบรกเกอร์ที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในการเทรด

8. Create a Trading Plan
and Forex Trading Strategy

แผนการเทรดจะปลูกฝังวินัยที่คุณต้องการเพื่อประสบความสำเร็จในะระยะยาว แผนเป็นกรอบเวลาสำหรับติดตามและวัดผลการดำเนินงานในการเทรดของคุณ และหากมีแผน คุณจะสามารถประเมินว่าตนเองพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ แต่หากไม่มีแผนการเทรด คุณจะเทรดอย่างไม่มีกฎเกณฑ์โดยอาศัยการคาดเดาที่เหมือนกับการพนัน

ในแผนของคุณ ให้:

  • กำหนดเป้าหมายและความคาดหวังในการเทรดที่สมเหตุสมผล การเริ่มต้นด้วยความคาดหวังที่ผิดอาจทำให้เกิดการเทรดในเชิงรุกโดยหวังว่าจะทำกำไรได้เร็ว และเรื่องเช่นนี้จะจบลงอย่างเลวร้ายเท่านั้น

  • ตัดสินใจว่าคุณจะใช้เงินในการเทรด FX เท่าใด ลงทุนด้วยเงินที่คุณสามารถรับการขาดทุนได้เท่านั้น

  • กำหนดระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ คุณเป็นเทรดเดอร์ที่ไม่ชอบเสี่ยง เทรดเดอร์สายกลางหรือเทรดเดอร์เชิงรุก ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้จะส่งผลต่อขนาดสถานะที่คุณเปิดและการขาดทุนที่ยอมเผชิญ

  • ระบุกลยุทธ์การเทรดฟอเร็กซ์ของคุณ กลยุทธ์การเทรดจะช่วยคุณตัดสินใจเมื่อเข้าและออกจากการเทรด

  • มีกฎการบริหารจัดการความเสี่ยงและเงิน พิจารณาวิธีที่คุณจะบริหารจัดการความเสี่ยงและเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำนวนเงินทุนที่คุณจะเสี่ยงในการเทรดหนึ่งครั้งอยู่ที่เท่าใด Risk/Reward Ratio เท่าใดที่จะใช้ และเลเวอเรจเท่าใดที่จะใช้ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญก็คือให้เรียนรู้วิธีใช้คำสั่งเพื่อลดการขาดทุนให้เหลือน้อยที่สุด

คำศัพท์สำคัญ: เลเวอเรจเป็นเครื่องมือการเทรดที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะขนาดใหญ่ด้วยเงินทุนเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเปิดสถานะ $50,000 ด้วยเงิน $1,000 ในบัญชีที่ใช้เลเวอเรจ 50:1 เลเวอเรจสามารถเพิ่มกำไรได้ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากสามารถเพิ่มการขาดทุนได้เช่นกันหากใช้ไม่ถูกต้อง

9. เปิดบัญชีทดลอง

คุณจำเป็นต้องเรียนรู้พื้นฐานการเทรดและทดสอบทักษะของคุณในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความเสี่ยงก่อนที่จะสามารถเริ่มต้นเทรดด้วยเงินจริงบัญชีทดลอง จะช่วยให้คุณเทรดฟอเร็กซ์ในสภาวะตลาดจริงโดยไม่ต้องใช้เงินของคุณ

10. เริ่มต้นเทรด

เมื่อมีบัญชีทดลอง คุณสามารถเริ่มต้นเทรดได้โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

ขั้นตอนที่ 1: ตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายคู่สกุลเงินหรือไม่

ตามกฎทั่วไปแล้ว คุณจะซื้อคู่สกุลเงินเมื่อตลาดกำลังบ่งชี้ว่าสกุลเงินฐานจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่โควต หรือสกุลเงินที่โควตจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินฐาน

หรือในอีกแง่หนึ่ง คุณจะขายคู่สกุลเงินเมื่อตลาดกำลังบ่งชี้ว่าสกุลเงินฐานจะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่โควต หรือสกุลเงินที่โควตจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินฐาน

ตัวอย่างเช่น: การขายคู่สกุลเงิน

สมมติว่าโควตราคาเสนอซื้อ-เสนอขายของ EUR/USD อยู่ที่ 1.1420/1.1426 และคุณคาดว่า EUR จะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ USD แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดก็คือการขายคู่สกุลเงิน

หากคุณเปิด 1 ไมโครล็อต (EUR/USD 1,000 หน่วย) คุณจะขาย €1,000 ซึ่งมีมูลค่า US$1,142 หากการคาดการณ์ตลาดของคุณถูกต้องและอัตราแลกเปลี่ยนปรับตัวลดลงไปที่ 1.1370 คุณจะได้รับ 0.005 หรือ 50 pips โดยที่แต่ละ pip ในไมโครล็อตมีมูลค่า $0.1 ดังนั้น คุณจะทำกำไรได้ $5 (50 pips x $0.1)

ขั้นตอนที่ 2: ทำคำสั่งของคุณ

ในฐานะส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการเงินและความเสี่ยง คุณควรกำหนดระดับราคาที่จะปิดการเทรดเพื่อลดการขาดทุนให้เหลือน้อยที่สุดและจุดที่คุณจะล็อกกำไรเพื่อปกป้องกำไรหากตลาดปรับตัวลดลงโดยไม่คาดคิด

การดำเนินการดังกล่าวต้องใช้คำสั่ง ซึ่งคำสั่ง Stop-loss จะลดการขาดทุนให้เหลือน้อยที่สุด ส่วนคำสั่ง Take-profit จะปกป้องกำไรของคุณ

Example: Using stop-loss and
take-profit orders when short-selling

หากคุณกำลังขาย คุณก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนหากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้น คุณจึงทำคำสั่ง Stop-loss ไว้สูงกว่าราคาที่คุณขายคู่สกุลเงิน

ต่อจากตัวอย่างข้างต้น หากคุณเข้าเทรดที่ 1.1420 และทำคำสั่ง Stop-loss ที่ 1.1433 คุณจะจำกัดความเสี่ยงในการเทรดไว้ที่ 0.0013 หรือ 13 pips เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนเริ่มลดลง (ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณต้องการเมื่อกำลังขาย) คุณก็สามารถปรับ Stop-loss เป็นระดับที่คุณสามารถปกป้องกำไรของคุณได้

สมมติว่าหลังจากที่คุณขาย EUR/USD ที่ 1.1420 ราคาก็ลดลงเป็น 1.1370 คุณสามารถทำคำสั่ง Take-profit ไว้ที่ 1.1385 เพื่อปกป้องกำไรที่มีเอาไว้ 70% หากตลาดกลับตัวเป็นขาลงอย่างกะทันหัน

ตัวอย่างเช่น: การทำคำสั่งเมื่อซื้อ

หากสถานการณ์ตรงกันข้ามและคุณกำลังซื้อคู่สกุลเงิน คุณจะทำคำสั่ง Stop-loss ไว้ที่ระดับต่ำกว่าราคาที่เข้าเทรด ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อ EUR/USD ที่ 1.1426 และทำคำสั่ง Stop-loss ที่ 1.1399 คุณจะจำกัดความเสี่ยงในการเทรดไว้ที่ 0.0027 หรือ 27 pips

สมมติว่าหลังจากที่คุณซื้อ EUR/USD ราคาก็เพิ่มขึ้นเป็น 1.1458 ในภายหลัง หากคุณทำคำสั่ง Take-profit ไว้ที่ 1.1449 คุณจะปกป้องกำไรที่มีได้มากกว่าครึ่งหนึ่งในกรณีที่ตลาดเคลื่อนไหวตรงข้ามกับการเทรดของคุณอย่างกะทันหัน

เริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์

การเริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์เป็นเรื่องที่ค่อนข้างไม่ยุ่งยาก แต่ความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับการทำงานอย่างหนักมาก ความอดทน การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและความสามารถปรับตัวให้เข้ากับตลาดฟอเร็กซ์ที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา เมื่อคุณมั่นใจในกลยุทธ์ของตนเองและเข้าใจความเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่งของตลาดแล้ว คุณก็สามารถย้ายไปเทรดจริงและใช้ประโยชน์จากโอกาสจำนวนมากในตลาดเงินเพื่อสร้างรายได้บางส่วน

เริ่มต้นเทรด
ได้ในไม่กี่นาที

bullet เข้าถึงตราสารทางการเงินกว่า 10,000 รายการ
bullet เปิดและปิดสถานะอัตโนมัติ
bullet ข่าวสารและปฏิทินเศรษฐกิจ
bullet เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและกราฟ
bullet มีเครื่องมือเพิ่มเติมอีกมากมาย

การให้อีเมลของคุณ แสดงถึงว่าคุณยอ มรับในนโยบายความเป็ นส่วนตัวของ FP Markets และจะรับสื่อการตลาดในอนาคตจาก FP Markets คุณสามารถยกเลิกการสมัครรับได้ทุกเมื่อ




Source - database | Page ID - 20729

Get instant Updates in Telegram