โลหะมีค่าใดเหมาะ
ที่จะลงทุนมากที่สุด

โลหะมีค่าใดเหมาะที่จะลงทุนมากที่สุด

ประวัติการเทรดโลหะมีค่านั้นย้อนกลับไปหลายศตวรรษ ในขณะที่ทองคำเริ่มขุดกันเมื่อเกือบ 7,000 ปีก่อน การขุดแร่เงินมีอายุย้อนไปถึง 3,000 ปีก่อนคริสตกาล นอกเหนือจากการเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนแล้ว โลหะมีค่าเหล่านี้ยังได้รับการพิจารณาว่าเป็นแหล่งสะสมมูลค่าในระยะยาวมาเป็นเวลาหลายร้อยปีและถูกใช้เพื่อการลงทุนเนื่องจากมูลค่าที่แท้จริงของมันไม่ได้สึกกร่อนไปตามกาลเวลา

ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้น โลหะมีค่าอื่นๆ จึงเข้ามาผสมโรงร่วมกับทองคำและโลหะเงินในการเป็นตัวเลือกการลงทุนที่ได้รับความสนใจ ปัจจุบันโลหะมีค่าเป็นที่นิยมทั้งเพื่อการลงทุนและการค้า และเป็นองค์ประกอบสำคัญของการกระจายพอร์ตการลงทุนให้มีความหลากหลาย โลหะมีค่ามีสถานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย นักลงทุนและเทรดเดอร์ต่างหลั่งไหลเข้ามาในช่วงที่มีวิกฤติการเงินและความไม่แน่นอนทางการเมือง

นอกเหนือจากการเป็นเจ้าของโลหะมีค่าจริงๆ แล้ว ยังมีอีกหลายวิธีที่เทรดเดอร์และนักลงทุนสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ประเภทนี้ได้ วิธีการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ CFD, ETF, กองทุนรวม และการซื้อหุ้นของบริษัทโลหะมีค่า มาดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลหะมีค่าต่างๆ และวิธีการเทรดหรือลงทุนในสิ่งเหล่านี้

เหตุผลที่ควรลงทุนใน
โลหะมีค่า

มีเหตุผลหลักสามประการด้วยกันในการลงทุนในโลหะมีค่า:

การป้องกันความเสี่ยง: โลหะมีค่าเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงที่สำคัญเนื่องจากถือเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากปัจจัยที่มักทำให้สินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ปรับลง เช่น การชะลอตัวหรือภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ ช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง ความไม่มั่นคงทางการเมือง และแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์


ปกป้องจากเงินเฟ้อ: โลหะมีค่านั้นมีมูลค่าที่แท้จริงและไม่มีความเสี่ยงด้านเครดิต ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ ในขณะที่มูลค่าของสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะสกุลเงิน จะสึกกร่อนไปตามอัตราเงินเฟ้อ แต่โลหะมีค่าจะได้รับการปกป้องจากสิ่งนี้

การกระจายการลงทุน: ความต้องการในโลหะมีค่าที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บวกกับปริมาณที่หามาได้ที่จำกัดและการใช้งานในอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นทำให้เป็นรูปแบบการลงทุนที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก อุปสงค์ที่สูงและความขาดแคลนในอุปทานหรือมีอยู่ในปริมาณที่จำกัด ทำให้มูลค่าของโลหะมีค่าเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นแม้ว่าราคาจะผันผวนทุกชั่วโมงและทุกวัน แต่ก็มีแนวโน้มที่จะรักษาแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้ในระยะยาว ราคาของโลหะมีค่าไม่ได้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับประเภทสินทรัพย์หลักอื่นๆ เช่นหุ้นและพันธบัตร ดังนั้นจึงถือเป็นวิธีที่ดีในการกระจายพอร์ตการลงทุนของคุณ

How Much to Invest
in Precious Metals?

โดยพื้นฐานแล้ว คำถามก็คือ ควรจัดสรรพอร์ตให้กับการลงทุนหรือการเทรดในโลหะมีค่าเป็นจำนวนกี่เปอร์เซ็นต์? ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่บอกว่า 5% แต่คำตอบนั้นขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงิน ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และความเสี่ยงของสินทรัพย์อื่นๆ ในพอร์ตของคุณ หากฐานะทางการเงินของคุณแข็งแกร่งและคุณมีปริมาณความเสี่ยงที่ยอมรับได้ที่ดี คุณสามารถจำกัดปริมาณโลหะมีค่าในพอร์ตการลงทุนของคุณได้ ยิ่งฐานะทางการเงินของคุณอ่อนแอและจำกัดความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยงมากเท่าไหร่ คุณก็ควรเลือกโลหะมีค่าไว้ในพอร์ตการลงทุนของคุณในสัดส่วนที่สูงขึ้นเท่านั้น

นอกจากนี้คำตอบยังขึ้นอยู่กับสกุลเงินที่ใช้ในพอร์ตของคุณ หากคุณถือสินทรัพย์ในสกุลเงินที่มั่นคง สัดส่วนของโลหะมีค่าในพอร์ตการลงทุนของคุณสามารถลดต่ำลงได้ ในทางกลับกันก็เป็นจริงสำหรับสกุลเงินที่ไม่เสถียร

โลหะมีค่าใดเหมาะ
Precious Metal to
Invest In?

ขณะที่ทองคำและโลหะเงินเป็นที่ชื่นชอบมานานหลายศตวรรษ แต่ทองคำขาวหรือแพลตินัมและแพลเลเดียมก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเช่นกัน การลงทุนในโลหะมีค่าแต่ละชนิดให้โอกาสและมาพร้อมความเสี่ยงในตัวที่แตกต่างกัน ลองมาดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลหะมีค่าชนิดต่างๆ กัน

ทองคำ

ความแวววาวของทองคำดึงดูดนักลงทุนมานานหลายร้อยปี เป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับคุณค่าทางใจและการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ โลหะมีค่านี้เป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่นักลงทุนรายย่อย เทรดเดอร์ รวมถึงรัฐบาล คุณสมบัติที่ทำให้ทองคำเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมคือความอ่อนตัวและทนต่อความร้อนสูง เดิมทีถูกใช้เป็นสกุลเงิน แต่ปัจจุบันทองคำกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในภาคส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทันตกรรม และการแพทย์ โดยส่วนใหญ่นั้นใช้ทำเครื่องประดับ โลหะมีค่านี้จึงมีสภาพคล่องสูง ซึ่งหมายความว่าสามารถเปลี่ยนเป็นเงินตราได้ง่าย นอกเหนือจากการเป็นที่ต้องการของนักลงทุนและเทรดเดอร์แล้ว โลหะมีค่านี้ยังเป็นส่วนสำคัญของทุนสำรองระหว่างประเทศของหลากหลายประเทศซึ่งใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ

โลหะเงิน

โลหะมีค่ายอดนิยมอีกชนิดหนึ่งคือโลหะเงิน โดยเป็นผลพลอยได้จากการขุดโลหะอื่นๆ เช่น ทองแดง สังกะสี และตะกั่ว โลหะมีค่านี้มีการนำไฟฟ้าและความร้อนสูงที่สุดของธาตุใดๆ และมีความต้านทานของหน้าสัมผัสต่ำที่สุด จึงเหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรม เป็นที่ต้องการอย่างมากเพราะความเงาและความมันวาว โลหะนี้ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเพื่อทำส่วนประกอบสำหรับแผงโซลาร์เซลล์ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ โลหะเงินยังใช้สำหรับการผลิตแบตเตอรี่ งานผลิตตัวนำยิ่งยวด และแผงวงจรขนาดเล็ก โลหะมีค่านี้ยังถูกใช้ในงานเครื่องเพชรพลอยและเครื่องประดับอื่นๆ และมักถูกเรียกว่าเป็นทองของคนจน โลหะเงินเป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมู่เทรดเดอร์ที่เพิ่งเริ่มต้นเนื่องจากมีราคาถูกกว่าทองคำ นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์เนื่องจากช่วยป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ และตลาดโลหะเงินมีความผันผวนมากกว่าตลาดทองคำ ดังนั้นจึงให้โอกาสในการเทรดที่น่าสนใจมากกว่า

แพลตินัม

มีการเทรดกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก โลหะมีค่าชนิดนี้มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้เป็นโลหะที่มีค่าที่สุด ด้วยความต้านทานการกัดกร่อนในระดับสูง ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรม แพลตินัมถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในงานเครื่องเพชรพลอย ปิโตรเลียม และตัวเร่งปฏิกิริยาการกลั่นทางเคมี ราคาตลาดของโลหะมีค่านี้ส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากความต้องการรถยนต์ที่ใช้เครื่องฟอกไอเสีย ส่วนใหญ่พบในแอฟริกาใต้และรัสเซีย แพลตินัมเป็นที่นิยมสำหรับการกระจายพอร์ตการลงทุนเนื่องจากราคาแพลตินัมมักจะสูงขึ้นท่ามกลางความผันผวนต่ำ

แพลเลเดียม

เช่นกัน โลหะสีเงินแวววาวนี้ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และงานอุตสาหกรรม นี่เป็นโลหะหายากที่พบส่วนใหญ่ในเหมืองของสหรัฐอเมริกา รัสเซีย และแอฟริกาใต้ แพลเลเดียมยังถูกใช้ในงานพลังงานแสงอาทิตย์ เซลล์เชื้อเพลิง ทันตกรรม ยา เครื่องเพชรพลอย และการบำบัดน้ำใต้ดิน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์ได้เริ่มใช้โลหะนี้สำหรับเครื่องฟอกไอเสียเนื่องจากเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ดีเยี่ยมในการเร่งปฏิกิริยาทางเคมี โลหะที่อ่อนตัวแต่ทนทานและแข็งกว่าแพลตินัมนี้ยังคงพบการใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะตัวเลือกการลงทุน แพลเลเดียมยังไม่ได้รับความนิยมมากเท่าใดนัก

ทองแดง

เดิมถูกจัดอยู่ในประเภทโลหะทางกายภาพ ปัจจุบันทองแดงถือเป็นโลหะมีค่าเนื่องจากความหายาก ความต้องการทองแดงซึ่งเป็นหนึ่งในโลหะที่นำไฟฟ้าได้ดีที่สุดสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม การผลิต และการตกแต่งทำให้อุปทานขาดแคลน แม้ว่าจะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับทองคำแท่ง แท่งเงิน และเหรียญทองกับเหรียญเงิน แต่เหรียญและแท่งทองแดงก็หาทางเข้ามาสู่พอร์ตการลงทุนของนักลงทุนที่มองการณ์ไกลจนได้

โลหะมีค่า
อื่นๆ

รูทีเนียม, โรเดียม, อิริเดียม, และออสเมียมถูกนำไปใช้ในงานอุตสาหกรรมเนื่องจากมีความแข็งแรงและทนทาน แต่โลหะมีค่าประเภทนี้ไม่ได้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทุน

วิธีการลงทุนใน
โลหะมีค่า

การลงทุนในโลหะมีค่านั้นทำได้หลายวิธีดังนี้:

การซื้อทางกายภาพ

เมื่อวางแผนที่จะลงทุนในโลหะมีค่า ผู้คนจำนวนมากมักพิจารณาซื้อทองคำหรือโลหะเงินทางกายภาพ ซึ่งประกอบไปด้วยแบบแท่งและเหรียญเป็นหลัก บางคนถึงกับเลือกซื้อเหรียญสะสม แต่การลงทุนดังกล่าวส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยเหตุผลทางอารมณ์ในฐานะสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและความมั่นคงทางการเงินแทนที่จะเป็นแรงจูงใจในการหาเงิน การซื้อทางกายภาพมาพร้อมกับความยุ่งยากในการจัดเก็บโลหะมีค่าเหล่านี้ให้ปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บโลหะมีค่าทางกายภาพ นักลงทุนอาจพิจารณาซื้อ ETF (Exchange Traded Funds) หรือตราสารอนุพันธ์เช่นสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD)

หุ้นของบริษัทโลหะ

วิธีหนึ่งในการเข้าถึงโลหะมีค่าคือหุ้นเหมืองแร่ เช่น บริษัทเหมืองแร่ที่มีส่วนร่วมในการขุดและผลิตโลหะเหล่านี้ ราคาหุ้นเหล่านี้จะเชื่อมโยงกับราคาของโลหะ ตลอดจนปัจจัยเฉพาะของ บริษัท เช่น ทีมผู้บริหาร ความแข็งแรงของงบดุล การดำเนินการ และแนวโน้ม

Exchange Traded Funds หรือ ETF

การลงทุนใน ETF เป็นตัวแทนความเป็นเจ้าของในโลหะมีค่าจำนวนเล็กน้อย ซึ่งหมายความว่าราคาของ ETF มีความสัมพันธ์โดยตรงกับราคาของโลหะมีค่า แม้ในทางเทคนิคจะเป็นเจ้าของโลหะมีค่า แต่นักลงทุนใน ETF ก็ไม่มีสิทธิ์ครอบครองทรัพย์สินทางกายภาพที่เกี่ยวข้องกับกองทุน ความเป็นเจ้าของอยู่ที่สถาบันการเงินที่ดำเนินการกองทุนและนักลงทุนจะอาศัยการปฏิบัติตามภาระผูกพันที่เกี่ยวข้อง ETF บางตัวยังเป็นตัวแทนของความสนใจในเหมืองหรือโรงงานสกัดโลหะมีค่า ETF ประเภทนี้อาจเคลื่อนไหวควบคู่ไปกับมูลค่าของโลหะที่เกี่ยวข้อง แต่อยู่ในขอบเขตที่จำกัดเท่านั้น

ETF มีการเทรดกันเหมือนหุ้นและมีความผันผวนของราคาตลอดทั้งวันที่ทำการเทรด เนื่องจาก ETF มีการซื้อและขายตลอดทั้งวัน จึงมีสภาพคล่องที่สูงกว่ากองทุนรวมมาก

สัญญาซื้อขายส่วนต่าง

สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (Contract for Difference) หรือ CFD เป็นตราสารอนุพันธ์ที่เปิดให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรในการขึ้นและลงของราคาตราสารสำหรับการลงทุนส่วนใหญ่ที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็ว เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงิน ตราสารทุน ดัชนี และโลหะมีค่า เมื่อทำการเทรด CFD เทรดเดอร์ไม่ได้ซื้อหรือขายโลหะมีค่าที่อ้างอิง แต่ CFD เป็นตัวแทนของสัญญาระหว่างเทรดเดอร์กับคนกลางซึ่งโดยทั่วไปคือโบรกเกอร์

How Do CFDs
Work in Precious
Metals Trading?

ราคาของ CFD จะขึ้นอยู่กับราคาของสินทรัพย์อ้างอิงซึ่งในกรณีนี้คือโลหะมีค่าอย่างเช่นทองคำหรือโลหะเงิน อย่างไรก็ตาม แทนที่จะเป็นราคาที่แท้จริงของโลหะมีค่า ตราสารอนุพันธ์นี้จะคำนวณเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของราคาหรือความแตกต่างระหว่างจุดเข้ากับจุดออกจากการเทรดเท่านั้น ดังนั้นเทรดเดอร์จะได้กำไรหรือขาดทุนจากส่วนต่างระหว่างราคาปัจจุบันของโลหะมีค่ากับราคาที่เสนอ ขึ้นอยู่กับว่าตลาดได้เคลื่อนไหวไปตามที่พวกเขาต้องการหรือไม่

เทรดเดอร์เข้าทำสัญญาดังกล่าวโดยอาศัยการคาดเดาว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง หากเทรดเดอร์คาดว่าราคาจะสูงขึ้น พวกเขาจะซื้อหน่วยของ CFD ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่หากพวกเขาคาดว่าราคาจะลดลง พวกเขาจะขายหน่วยดังกล่าว หากการคาดการณ์เป็นจริง เทรดเดอร์จะทำกำไรจากการเทรดแม้ว่าราคาของโลหะมีค่าจะลดลงก็ตาม

ความจริงที่ว่า CFD เสนอโอกาสในการเทรดแม้ในตลาดขาลงนั้นก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ได้รับความนิยม

Some of the Most
Important Terms in
Trading Precious
Metal CFDs

ทำการ Long

เมื่อเทรดเดอร์เปิดสถานะซื้อสำหรับ CFD โดยคาดว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะเพิ่มขึ้น จะเรียกว่าทำการ Long

ทำการ Short

เมื่อเทรดเดอร์เปิดสถานะขายโดยคาดว่าราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลง จะเรียกว่าทำการ Short

มาร์จิ้น

นี่คือจำนวนเงินทุนล่วงหน้าของเงินที่เทรดเดอร์ต้องฝากเข้าบัญชีเพื่อเปิดสถานะหรือเข้าสู่ CFD จำนวนเงินมาร์จิ้นนี้โดยทั่วไปจะเป็นเปอร์เซ็นต์เล็กน้อยของมูลค่าเต็มของสินทรัพย์อ้างอิง

สเปรด

นี่คือความแตกต่างระหว่างราคาเสนอขายกับราคาเสนอซื้อสำหรับสินทรัพย์อ้างอิงของ CFD สเปรดคือค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมของเทรดเดอร์และจะถูกหักออกจากกำไรโดยรวมที่เกิดขึ้นหรือบวกเพิ่มในการขาดทุนโดยรวมที่เกิดขึ้น ดังนั้นยิ่งสเปรดต่ำเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมของเทรดเดอร์ก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น

เลเวอเรจ

นี่เป็นหนึ่งในคำศัพท์ที่สำคัญที่สุดในการทำความเข้าใจการเทรด CFD เลเวอเรจคืออัตราส่วนระหว่างมูลค่าสถานะกับจำนวนเงินที่ต้องใช้ในการเปิดสถานะ CFD เป็นตราสารทางการเงินที่มีเลเวอเรจ ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์สามารถเปิดรับความเสี่ยงจากสินทรัพย์อ้างอิงได้เป็นอย่างมากโดยไม่ต้องลงทุนครบตามจำนวน แม้ว่าสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้คุณได้ แต่คุณควรใช้เลเวอเรจด้วยความระมัดระวังเนื่องจากการขาดทุนก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วยในกรณีที่ตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ

ดัชนีอะไรที่มี
Benefits of Trading
Precious Metals
via CFDs?

ข้อได้เปรียบที่สำคัญของการเทรด CFD คือมีโอกาสในการเทรดทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถหาโอกาสในการเทรดได้แม้ว่าราคาโลหะมีค่าจะลดลงก็ตาม ข้อดีที่สำคัญบางประการของการเทรดโลหะมีค่าผ่าน CFD ได้แก่:

ไม่จำเป็นต้องซื้อโลหะมีค่า

การซื้อทองคำหรือโลหะเงินมาพร้อมกับความยุ่งยากหลายประการ นอกจากนั้นยังมีผลกระทบด้านต้นทุน สมมติว่าราคาทองคำอยู่ที่ $2,000 ต่อออนซ์ นี่หมายความว่าคุณต้องมีเงินอย่างน้อย $2,000 เพื่อซื้อโลหะสีเหลืองนี้หนึ่งออนซ์ ขณะที่ในการเทรด CFD ทองคำนั้น การเปิดรับของคุณจะถูกจำกัดอยู่ที่ความแตกต่างระหว่างราคาปัจจุบันของโลหะมีค่ากับราคาที่เสนอเท่านั้น

วิธีที่คุ้มค่าในการเทรด

คุณสามารถเลือกโบรกเกอร์ CFD ที่เรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียมที่ต่ำมากๆ ในการเทรด CFD โลหะมีค่าได้ นอกจากนี้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์มีความโปร่งใสในด้านค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นที่เรียกเก็บ

แพลตฟอร์มขั้นสูง

การเทรด CFD จะง่ายขึ้นหากแพลตฟอร์มเทรดนั้นใช้งานง่าย ขณะเดียวกันก็มีความทันสมัยมากพอที่จะให้การวิเคราะห์ทางเทคนิค การทดสอบย้อนกลับ รวมถึงเครื่องมืออื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าการเทรดนั้นปลอดภัยและรวดเร็ว MetaTrader 4 เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกสำหรับการเทรด CFD และคุณสามารถดาวน์โหลด MetaTrader 4 ได้ฟรี

เลเวอเรจสูง

การเทรด CFD คือการเทรดแบบใช้เลเวอเรจ ซึ่งหมายความว่าจะช่วยนักลงทุนให้เปิดรับสถานะที่ใหญ่ขึ้นได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดในตอนเริ่ม ปริมาณเลเวอเรจที่โบรกเกอร์เสนอให้นั้นมีตั้งแต่ 50:1 ไปจนถึง 500:1 ในบัญชี FP Markets PRO

ดังนั้นด้วยเลเวอเรจ เทรดเดอร์จึงลงทุนแค่เพียงสัดส่วนเล็กน้อยจากต้นทุนของโลหะมีค่า แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้ ผลกำไรและขาดทุนจะคำนวณจากขนาดสถานะเต็ม หมายความว่าผลกำไรและขาดทุนจะมากกว่าค่าใช้จ่ายเริ่มต้นของนักลงทุนเป็นอย่างมาก ดังนั้นในขณะที่ผลตอบแทนจะสูงขึ้นอย่างมากด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจอย่างเช่น CFD เมื่อตลาดเคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการ แต่ผลขาดทุนก็อาจสูงขึ้นได้เช่นกันในกรณีที่ราคาโลหะมีค่าเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่เทรดเดอร์คาดไว้

เมื่อลงทุนในโลหะมีค่าผ่าน CFD คุณต้องฝากเงินเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของจำนวนสถานะทั้งหมด อาจจำเป็นต้องมีมาร์จิ้นรักษาสภาพในกรณีที่การเทรดของคุณไม่เป็นไปตามที่คุณต้องการและเงินประกันของคุณใกล้จะหมดลง เมื่อทำการเทรดผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจอย่างเช่น CFD คุณควรเทรดกับโบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแลและมีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการจัดการความเสี่ยง

การป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนในสินค้าโภคภัณฑ์หรือตราสารอื่น: การลงทุนใน CFD โลหะมีค่ายังช่วยให้เทรดเดอร์สามารถป้องกันการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในสินค้าโภคภัณฑ์หรือหุ้นอื่นๆ ได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น หากคุณเชื่อว่าสถานะหุ้นของคุณอาจดิ่งลงเนื่องจากมีข่าวเชิงลบ คุณสามารถชดเชยความเสี่ยงบางส่วนได้โดยการทำ Long ใน CFD โลหะมีค่า

วิธีเริ่มต้น
Trading Precious
Metal CFDs?

ความรู้เกี่ยวกับโลหะมีค่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา และเคล็ดลับการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะช่วยในการเทรด CFD โลหะมีค่าได้เป็นอย่างมาก โบรกเกอร์ชื่อดังจะให้การสนับสนุนลูกค้า แหล่งข้อมูลการศึกษา รวมถึงมีบัญชีทดลองเพื่อช่วยให้คุณตามทันการเทรด CFD โลหะมีค่า

ขั้นตอนในการเทรดโลหะมีค่ามีดังนี้:

หาโบรกเกอร์ที่ดี

เนื่องจากโบรกเกอร์จะเป็นสื่อกลางที่ช่วยให้คุณสามารถเทรดโลหะมีค่าที่คุณเลือกได้ คุณจึงควรเลือกอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ได้ผลการตัดสินใจที่ดี มีปัจจัยบางประการที่ควรพิจารณา:

  • มีการกำกับดูแล: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ที่คุณเลือกนั้นได้รับอนุญาตและมีการกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแลที่ได้รับการยอมรับอย่างเช่น Australian Securities and Investments Commission (ASIC) โบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแลจะปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านเงินทุนเพื่อให้เป็นไปตามภาระผูกพันในการจ่ายเงินของเทรดเดอร์และปฏิบัติตามตารางการตรวจสอบจากภายนอกเพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับอย่างสม่ำเสมอในการดำเนินงานของพวกเขา

  • การแยกเงินทุนออกต่างหาก: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์แยกเงินทุนของเทรดเดอร์รายย่อยออกจากเงินทุนของตนเองและได้รับการคุ้มครองจากธนาคารชั้นนำ

  • สภาพคล่อง: เลือกโบรกเกอร์ที่ให้สภาพคล่องระดับสูงและในหลายสินทรัพย์โดยสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสถาบันการเงินชั้นนำ

  • เลเวอเรจ: เลือกโบรกเกอร์ที่ให้เลเวอเรจที่ยืดหยุ่น แม้ว่าโดยทั่วไปคุณอาจเทรดโดยใช้เลเวอเรจที่ต่ำ แต่คุณอาจเปิดทางเลือกไว้เพื่อเพิ่มเลเวอเรจในการเทรดบางรายการ

  • แพลตฟอร์ม: เลือกโบรกเกอร์ที่มีเครื่องมือและการสนับสนุนสำหรับ MetaTrader 4 หรือ MetaTrader 5 โดยแพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นแพลตฟอร์มที่รวดเร็ว ใช้งานง่าย และเสถียรที่ได้รับความไว้วางใจจากทั่วโลก

  • ปัจจัยอื่นๆ: ด้านอื่นๆ ที่ควรตรวจสอบ ได้แก่ Slippage, สเปรด, ค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียมอื่นๆ, ความสะดวกในการฝากและถอนเงินจากบัญชีของคุณ และการสนับสนุนลูกค้าระดับโลก

เปิดบัญชีทดลอง

ก่อนที่จะกระโจนเข้าสู่การเทรด CFD โลหะมีค่า เป็นความคิดที่ดีที่ควรจะฝึกฝนการเทรดโดยใช้บัญชีทดลองซึ่งจะจำลองการเทรดในโลกความเป็นจริง แม้ว่าบัญชีดังกล่าวจะมีเงื่อนไขการเทรดแบบเรียลไทม์ แต่สถานะจะถูกเปิดด้วยเงินจำลองและเทรดเดอร์จะไม่ได้หรือเสียเงินจริง บัญชีทดลองสามารถช่วยให้คุณคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มและได้รับประสบการณ์ตรงในการเทรด CFD

เลือกตราสารที่คุณต้องการเทรด

เมื่อคุณเปิดบัญชีกับบริษัทโบรกเกอร์แล้ว ให้ตรวจสอบตราสารที่มีให้เทรด

เลือกสกุลเงิน

คุณสามารถเทรดทองคำหรือโลหะเงินเป็นดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือสกุลเงินอื่นๆ เลือกสกุลเงินที่เหมาะสมกับโปรไฟล์การลงทุนของคุณ

ทำการวิจัยและวิเคราะห์ตลาดที่จำเป็น

ก่อนที่จะเริ่มเทรดจริงใน CFD โลหะมีค่า เป็นความคิดที่ดีที่ควรทำความคุ้นเคยกับปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดโลหะและติดตามข่าวสารและความคืบหน้าล่าสุด

เริ่มต้นการเทรดโดย:

  • เปิดสถานะ Long หรือซื้อหากคุณคาดว่าตลาดจะปรับขึ้น หรือสถานะ Short หรือขายหากคุณคาดว่าราคาจะลดลง

  • เลือกขนาดล็อตตามเป้าหมายทางการเงินของคุณ เลเวอเรจที่คุณต้องการใช้ รวมถึงงบประมาณของคุณ

  • การใช้เครื่องมือการจัดการความเสี่ยง เช่น คำสั่ง Stop Loss และ Limit

การเทรดโลหะมีค่ามีความเสี่ยงหรือไม่?

เช่นเดียวกับการลงทุนอื่นๆ ทั้งหมด โลหะมีค่ามีความเสี่ยงในระดับหนึ่ง แม้ว่าโลหะมีค่าจะมอบการป้องกันการล่มสลายทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่เทรดเดอร์มักจะเผชิญกับความเสี่ยงที่จะตัดสินใจผิดพลาดเสมอ ด้วยความรู้ที่เหมาะสมเกี่ยวกับการเทรดโลหะมีค่าและการมีวินัยในการใช้เครื่องมือการจัดการความเสี่ยง เทรดเดอร์จะสามารถลดความเสี่ยงที่พวกเขาเผชิญได้

Precious metals are among the preferred choice of experienced traders for portfolio diversification. This is especially true for precious metals like gold and silver.

เริ่มต้นเทรด
ได้ในไม่กี่นาที

bullet เข้าถึงตราสารทางการเงินกว่า 10,000 รายการ
bullet เปิดและปิดสถานะอัตโนมัติ
bullet ข่าวสารและปฏิทินเศรษฐกิจ
bullet เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและกราฟ
bullet มีเครื่องมือเพิ่มเติมอีกมากมาย

การให้อีเมลของคุณ แสดงถึงว่าคุณยอ มรับในนโยบายความเป็ นส่วนตัวของ FP Markets และจะรับสื่อการตลาดในอนาคตจาก FP Markets คุณสามารถยกเลิกการสมัครรับได้ทุกเมื่อ




Source - database | Page ID - 20976

Get instant Updates in Telegram