เทรด CFD
อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

วิธีการเทรด CFD
เคล็ดลับในการเทรด CFD ให้ประสบความสำเร็จ

สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) เปิดโอกาสให้สร้างกำไรได้จากความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ที่ใช้อ้างอิง ทั้งในช่วงขาขึ้นและขาลงของตลาด โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้น การเทรด CFD ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีความเสี่ยงสูงซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จเช่นกัน บทความนี้จะให้ข้อมูลถึงวิธีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรด CFD มากขึ้น

รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่

ก่อนที่่คุณจะเทรด CFD ให้ประสบความสำเร็จได้ คุณจะต้องสั่งสมความรู้ก่อน การทำความเข้าใจ CFD นั้นเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งในแง่ของพื้นฐานการเทรดและปัจจัยที่มีผลต่อการเทรดครั้งใดครั้งหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น หนึ่งในพื้นฐานที่สำคัญที่สุดคือ CFD นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีเลเวอเรจ ซึ่งหมายความว่าผลตอบแทนนั้นเป็นแบบทวีคูณ แต่มูลค่าทั้งบัญชีก็หายไปได้ง่ายๆ เช่นกัน โดยเลเวอเรจอาจทำให้ยอดขาดทุนของคุณมากเกินกว่าเงินฝากตั้งต้นสำหรับการเทรดนั้นๆ เว้นเสียแต่คุณจะใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยงซึ่งเราจะกลับมาพูดถึงอีกครั้ง

เมื่อพูดถึงรายละเอียดเฉพาะในการเทรด คุณควรทราบว่า มาร์จิ้น เลเวอเรจ และการหยุดการขาดทุนอาจมีลักษณะที่คาดการณ์ไม่ได้เนื่องจากความผันผวนในตลาด คุณควรถามตัวเองว่าคุณเข้าใจสิ่งต่างๆ เช่น ช่องว่างราคา ค่าธรรมเนียมการซื้อขายข้ามคืน การขอมาร์จิ้นเพิ่ม สเปรดที่มากขึ้น และสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการเทรด CFD ของคุณอย่างไร

เรียนรู้ไปเรื่อยๆ

ตลาดการเงินนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด CFD ก็เช่นกัน ดังนั้นการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็น คุณควรติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ในตลาดและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามให้เหมาะสม การอัพเดทความรู้ของคุณเป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินอยู่ตลอดเพราะสิ่งที่ใช้ได้ผลวันนี้อาจไม่ได้ผลในวันพรุ่งนี้และการเรียนรู้จากข้อผิดพลาดก็เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ โชคดีที่ทุกวันนี้มีแหล่งความรู้มากมายสำหรับเทรดเดอร์ CFD เพื่อช่วยให้คุณสามารถพัฒนาและอัพเดทความรู้ของคุณได้อยู่ตลอด

มีแผนที่ดี

แผนการเทรดจะช่วยให้คุณมีเส้นทางในการเดินเกมการเทรดของคุณอย่างชัดเจนด้วยการวางเค้าโครงของเหตุผล สิ่งที่ต้องทำ ช่วงเวลา และวิธีการ การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมดก่อนเริ่มการเทรดจะช่วยคุณหลีกเลี่ยงการเทรดด้วยอารมณ์ ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผลที่จะนำไปสู่การขาดทุน แผนการเทรดจะต้องครอบคลุมประเด็นสำคัญบางส่วน เช่น:

  • จุดประสงค์ในการเทรดของคุณโดยมีเป้าหมายในการเทรดที่ชัดเจนและเป็นไปได้มาช่วยรองรับ

  • สไตล์การเทรดและความเสี่ยงที่ยอมรับได้

  • สินทรัพย์ที่คุณต้องการจะเทรด ไม่ควรคาดหวังว่าจะเชี่ยวชาญการเทรดในสินทรัพย์ทุกชนิด

  • จะหาเงินทุนเพื่อการเทรดมาอย่างไรและต้องใช้ทุนเท่าไร

  • กลยุทธ์การเทรดที่มีกฎชัดเจนสำหรับการเข้าเทรดและการออก รวมถึงการจัดการเงินและความเสี่ยง

  • การเก็บบันทึก

แผนที่ดีจะช่วยให้คุณมีโครงสร้างที่ยอดเยี่ยมสำหรับการตัดสินใจด้านการเทรดในแต่ละวัน

ทำตามแผนที่วางไว้
especially the
Strategy

แผนการเทรดเป็นสิ่งสำคัญ แต่กลยุทธ์ในการเทรดของคุณนั้นเป็นส่วนสำคัญที่สุดของแผนนั้น และโดยมากแล้ว กลยุทธ์ของคุณจะเป็นสิ่งชี้ขาดว่าคุณจะประสบความสำเร็จขนาดไหนในตลาด CFD ดังนั้นการทำตามกลยุทธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนี่จะไม่เพียงช่วยให้คุณสามารถลดความเสี่ยงได้เท่านั้น (กลยุทธ์จะช่วยชี้ให้เห็นถึงระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้) แต่ยังช่วยคุณหลีกเลี่ยงการเทรดแบบตามใจได้อีกด้วย

นอกเหนือไปจากการทำตามกลยุทธ์แล้ว การตระหนักว่ากลยุทธ์นั้นใช้ไม่ได้ผลและต้องมีการเปลี่ยนแปลงก็สำคัญไม่แพ้กัน บันทึกการเทรดเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการพิจารณาว่ากลยุทธ์ของคุณได้ผลมากน้อยขนาดไหน

การเก็บบันทึกการเทรด

บันทึกจะช่วยให้คุณมีสิ่งที่สามารถนำกลับมาพิจารณาและระบุว่าอะไรบ้างที่ได้ผลหรือไม่ได้ผล ตัวอย่างเช่น คุณสามารถระบุรูปแบบ พิจารณาอารมณ์ของคุณและดูว่ามันมีผลต่อการเทรดของคุณอย่างไร การจดบันทึกจะช่วยคุณประหยัดเวลาเมื่อคุณต้องทำการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของคุณ

  • บันทึกการเทรดของคุณควรมี:

  • ตราสารทางการเงินที่คุณเทรด

  • เหตุผลที่คุณทำการเทรดครั้งนั้น ตัวอย่างเช่นคุณตัดสินใจจะเทรดโดยอิงตามความรู้สึกด้านความเสี่ยง การวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือตามแนวโน้มของข่าวสารทั่วโลก

  • เมื่อใดที่คุณเปิดและปิดสถานะ

  • ผลลัพธ์ของการเทรดนั้นเป็นอย่างไร การเทรดนั้นทำกำไรหรือขาดทุน

  • การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการเทรดของคุณ สิ่งที่คุณควรถามตัวเอง เช่น คุณได้ทำตามกลยุทธ์ของคุณเองไหมและคุณจัดการกับอารมณ์ของคุณอย่างไร

  • บทเรียนจากการทำการเทรด

Choose a Quality
CFD Broker

การค้นหาโบรกเกอร์ CFD ที่ไว้วางใจได้นั้นเป็นหนึ่งในการตัดสินใจด้านการเทรดที่สำคัญที่สุดที่คุณจะต้องทำ ตัวเลือกโบรกเกอร์ของคุณจะมีผลต่อผลลัพธ์ในการเทรด CFD เช่นเดียวกับตลาดการเงินชนิดอื่นๆ คุณจะต้องพิจารณาว่าข้อเสนอของการเทรด CFD นั้นช่วยให้คุณไปถึงความสำเร็จได้หรือไม่ ตั้งแต่ค่าสเปรด ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และแพลตฟอร์มเทรด ไปจนถึงคุณภาพของเครื่องมือเทรด แหล่งข้อมูลเพื่อการศึกษา ความปลอดภัย และการสนับสนุน โบรกเกอร์จะต้องมอบโซลูชั่นที่ตอบโจทย์การเทรดของคุณ

Practice, Practice,
Practice

CFD เป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน คุณมีโอกาสสูงมากที่จะล้มเหลวหากเริ่มการเทรดจริงโดยไม่มีประสบการณ์ที่เพียงพอ ดังนั้นคุณจึงควรทดสอบกลยุทธ์การเทรดของคุณและลองฝึกทำการเทรดบนบัญชีทดลองก่อนจะเริ่มเสี่ยงด้วยเงินทุนจริง การเทรดในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความเสี่ยงยังเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการทดสอบย้อนกลับกลยุทธ์ของคุณและประเมินว่าคุณจัดการอารมณ์ของคุณอย่างไรเมื่อทำการเทรด การฝึกฝนจะช่วยให้คุณสามารถสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสม ยกระดับทักษะการเทรด และพัฒนาทักษะการตัดสินใจของคุณ ซึ่งต่างเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างการเทรด CFD ที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว

อิงการเทรดของคุณกับเหตุผล ไม่ใช่ความรู้สึก

ถ้าคุณต้องการจะเทรดในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด การตัดสินใจการเทรดของคุณควรมาจากการวิเคราะห์และให้เหตุผลที่ดี ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการเทรด คุณต้องเลือกเทคนิคที่จะใช้เพื่อวิเคราะห์ตลาด การวิเคราะห์สองชนิดที่มักใช้โดยเทรดเดอร์ CFD คือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค เทรดเดอร์บางรายใช้การวิเคราะห์ทั้งสองรูปแบบโดยบางรายอาจถึงขั้นใช้การวิเคราะห์ความเชื่อมั่นด้วย

สิ่งที่สำคัญคือการไม่ยึดติดทุกอย่างมากจนเกินไปหรือปล่อยให้อารมณ์มีผลต่อการตัดสินใจ คุณจะต้องทำตามกฎที่ตั้งไว้และทบทวนกลยุทธ์ของคุณเพื่อลดการขาดทุนและเดินหน้าต่อไป แม้ว่าจะประสบกับภาวะขาดทุนหลายครั้งติดต่อกันก็ตาม

Understand Your
Trade Position

เนื่องจากการเทรด CFD มีเลเวอเรจจึงทำให้มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ดังนั้นคุณจึงควรเข้าใจขนาดของสถานะทั้งหมดของคุณก่อนที่จะเริ่มเทรด สิ่งหนึ่งที่คุณควรเข้าใจคือความแตกต่างระหว่างมาร์จิ้นกับเลเวอเรจ สรุปอย่างง่ายคือ คุณใช้มาร์จิ้นเพื่อสร้างเลเวอเรจและถือสถานที่มีมูลค่ามากกว่าด้วยส่วนหนึ่งของเงินทุนที่จำเป็นทั้งหมดเท่านั้น

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีมาร์จิ้น 5% นั่นหมายถึงคุณมีเลเวอเรจ 20:1 สมมุติว่าหุ้นของ Google กำลังซื้อขายกันที่ $1,500 ต่อหุ้น คุณจะต้องใช้เงินทุน $150,000 เพื่อซื้อหุ้น 100 หุ้นโดยไม่มีมาร์จิ้น แต่ด้วยข้อกำหนดมาร์จิ้น 5% คุณจึงใช้เพียง $7,500 เพื่อเปิดสถานะนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามาร์จิ้นจะมีข้อได้เปรียบมาก แต่คุณก็ควรรู้วิธีการควบคุมความเสี่ยงและสถานะการเทรดของคุณด้วย

การควบคุมเลเวอเรจ

เลเวอเรจเป็นเครื่องมือและควรจะถูกใช้อย่างเหมาะสม ซึ่งหมายถึงคุณไม่จำเป็นจะต้องใช้เลเวอเรจที่มีทั้งหมด และควรลดการใช้เลเวอเรจลงมาให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ซึ่งตรงกับระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้

ในกรณีที่คุณไม่สามารถลดเลเวอเรจได้ คุณสามารถเลือกที่จะลดสถานะการเทรด CFD เพื่อลดความเสี่ยงของคุณแทน ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องการจะลงทุน $10,000 ใน CFD ของหุ้น Google โดยมีเลเวอเรจ 10:1 หากโบรกเกอร์ CFD ของคุณไม่ยอมให้คุณลดเลเวอเรจ คุณสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการซื้อหุ้นมูลค่าเพียง $1,000 เพื่อให้คุณมีสถานะที่ใช้เลเวอเรจอยู่ที่ $10,000 ($1,000 x 10) หากคุณไม่ได้ลดสถานะการเทรดของคุณลง สถานะที่ใช้เลเวอเรจของคุณจะอยู่ที่ $100,000 (10,000 x 10)

Have Risk and
Money Management
Rules in Place

กฎในการจัดการความเสี่ยงและเงินอาจเป็นตัวชี้ขาดระหว่างการพลิกฟื้นกลับขึ้นมาได้และการสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดไป ดังนั้นคุณจำเป็นจะต้องระบุว่าคุณจะใช้งบประมาณของคุณอย่างไรและสิ่งที่คุณจะทำเพื่อลดความเสี่ยงที่ต้องเผชิญ กฎการจัดการความเสี่ยงและเงินที่สำคัญบางส่วนคือ:

การกำหนดและทำตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ คุณจะต้องพิจารณาว่าคุณมีเงินทุนอยู่เท่าไรและคุณพร้อมที่จะใช้มากน้อยเพียงใดในการเทรดหนึ่งครั้ง หลักทั่วไปคือไม่ควรเสี่ยงมากกว่า 1% ของเงินทุนทั้งหมดในการเทรดครั้งเดียว


พิจารณาว่าตอนไหนควรเข้าตอนไหนควรออก ก่อนที่คุณจะเข้าเทรด คุณต้องกำหนดระดับที่คุณจะเข้าตลาดและมีวินัยในการรอให้ราคาไปยังระดับที่กำหนดไว้ และคุณควรมีระดับสำหรับออกจากตลาดอยู่สองขั้นโดยตั้งคำสั่ง Stop-Loss และคำสั่ง Limit ระดับราคาเหล่านี้ควรจะเป็นไปตามอัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทนของคุณเองเพื่อให้ผลตอบแทนที่คาดหวังของคุณนั้นคุ้มค่า เทรดเดอร์ส่วนมากมักใช้อัตราส่วน 1:3


ใช้คำสั่ง Stop-Loss และคำสั่ง Limit กลยุทธ์ CFD สำหรับผู้เริ่มต้นและผู้มีประสบการณ์จะมีคำสั่ง Stop-Loss และคำสั่ง Limit โดยข้อกำหนดการออกจากตลาดที่กำหนดไว้ล่วงหน้านี้สามารถช่วยคุณลดความเสี่ยงได้ คำสั่ง Stop-Loss จะช่วยลดยอดขาดทุนเมื่อตลาดขยับไปในทิศทางตรงข้ามกับคุณ และคำสั่ง Limit จะช่วยล็อคกำไรของคุณไว้ในกรณีที่ตลาดเกิดการผันผวนเป็นขาลงโดยไม่คาดคิด เมื่อกำหนดคำสั่ง Stop-Loss คุณควรถามตัวเองว่าคุณจะยอมขาดทุนได้มากน้อยเพียงใดก่อนจะทำการปิดสถานะที่คุณถืออยู่ และในคำสั่ง Limit คุณไม่ควรละทิ้งการจำกัดนี้เพราะความโลภ วินัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด


การรู้ว่าตอนไหนควรตัดส่วนที่ขาดทุน กำหนดปริมาณการขาดทุนสูงสุดที่ยอมรับได้ต่อการเทรดทุกครั้งและปิดสถานะการเทรดนั้นเมื่อถึงระดับที่กำหนด ส่วนหนึ่งของการเทรด CFD ให้ประสบความสำเร็จคือการรับมือกับการขาดทุนอย่างเหมาะสมและกฎเหล็กข้อหนึ่งคือ คุณไม่ควรเติมเงินเพิ่มลงไปในสถานะที่ขาดทุนแล้วด้วยความหวังที่ว่าตลาดจะหยุดเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงข้ามกับคุณกฎโดยทั่วไปคือยอมตัดส่วนที่ขาดทุนและปล่อยให้กำไรวิ่งไปเรื่อยๆ


Monitor Your
Trades Closely

การเทรด CFD นั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แม้จะมีคำสั่ง Stop-Loss หยุดและ Take-Profit รอไว้ ความปั่นป่วนของตลาดและช่องว่างระหว่างราคาก็อาจทำให้ตลาดนั้นสวนทางกับคุณ ดังนั้นคุณจึงควรใส่ใจติดตามการเทรดของคุณเพื่อจะได้รับมือกับปัญหาหรือใช้โอกาสในการเทรดได้อย่างทันท่วงที

การติดตามการเทรดของคุณยังช่วยทำให้คุณมีมาร์จิ้นมากพอเพื่อให้คุณสามารถเปิดสถานะไว้ได้ การเทรด CFD กำหนดให้คุณต้องมีการรักษาระดับมาร์จิ้นไว้ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนการขอมาร์จิ้นเพิ่มเมื่อบัญชีของคุณมีมูลค่าเงินในบัญชีต่ำกว่าระดับมาร์จิ้นนี้และเสี่ยงที่จะถูกปิดสถานะได้

ยอมรับการขาดทุน

การเทรดในตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน CFD หมายความว่าคุณต้องยอมรับว่าในบางช่วง ตลาดจะเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณและการขาดทุนเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การมีกลยุทธ์ที่ดีที่จะช่วยให้คุณสามารถตัดการขาดทุนและเตรียมพร้อมเข้าถึงโอกาสใหม่ๆ ได้จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าบัญชีของคุณมีเงินทุนมากพอหลังจากคำนวณการเทรดที่ขาดทุนเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกขอมาร์จิ้นเพิ่ม

กระจายความเสี่ยง

การเทรด CFD นั้นมีความเสี่ยงสูงและหนึ่งในวิธีลดความเสี่ยงนั้นคือการกระจายความเสี่ยง นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้สร้างรายได้จากแหล่งเดียว ตัวอย่างเช่น หากสถานะซื้อขายทั้งหมดของคุณถูกลงไว้ใน CFD หุ้น และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศทำให้ราคาหุ้นดิ่งลง คุณจะขาดทุนเป็นปริมาณมาก แต่ถ้าคุณลงทุนไว้ใน CFD ฟอเร็กซ์หรือดัชนีด้วยแล้ว ความเสียหายที่คุณต้องเผชิญก็จะมีปริมาณน้อยลง

คุณสามารถกระจายความเสี่ยงได้ด้วยการเปิดสถานะซื้อขายในตลาด CFD ต่างๆ และตลาดการเงินอื่นๆ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถซื้อขาย CFD คริปโตเคอเรนซี่และ CFD สินค้าโภคภัณฑ์ แต่เนื่องจากผลตอบแทนของ CFD นั่นมีความผันผวนมาก คุณอาจเลือกที่จะกระจายความเสี่ยงออกจาก CFD ไปยังตลาดฟอเร็กซ์

ในตลาด CFD นั้นมีตราสารทางการเงินมากมาย แต่เมื่อเริ่มทำการกระจายความเสี่ยง คุณควรเริ่มจากปริมาณน้อยๆ คุณควรเลือกตราสารและตลาดที่คุณมีความคุ้นเคยและเข้าใจก่อน จากนั้นจึงค่อยกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ เมื่อคุณมีประสบการณ์และความมั่นใจในความสามารถการเทรดของคุณมากขึ้น

จะเริ่มต้น
With Trading CFDs
Successfully

การเทรด CFD นั้นไม่มีสูตรลับอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นเคล็ดลับในการเทรดเหล่านี้ไม่สามารถทำให้คุณประสบความสำเร็จในชั่วข้ามคืนได้ การเทรด CFD ให้ประสบความสำเร็จนั้นจำเป็นจะต้องมีแผนการในระยะยาวที่เป็นไปได้ ระเบียบวินัยและความอดทน การขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด แต่สิ่งสำคัญคือการลดความเสี่ยงและสร้างการเทรดที่ได้กำไรเป็นประจำเพื่อมาชดเชยการขาดทุนเหล่านี้ คุณสามารถเริ่มสร้างวิธีการคิดในการเทรด CFD ที่ประสบความสำเร็จได้ด้วยการปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้และทุ่มเทไปกับการฝึกทักษะในการเทรดของคุณ

เริ่มต้นเทรด
ได้ในไม่กี่นาที

bullet เข้าถึงตราสารทางการเงินกว่า 10,000 รายการ
bullet เปิดและปิดสถานะอัตโนมัติ
bullet ข่าวสารและปฏิทินเศรษฐกิจ
bullet เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและกราฟ
bullet มีเครื่องมือเพิ่มเติมอีกมากมาย

การให้อีเมลของคุณ แสดงถึงว่าคุณยอ มรับในนโยบายความเป็ นส่วนตัวของ FP Markets และจะรับสื่อการตลาดในอนาคตจาก FP Markets คุณสามารถยกเลิกการสมัครรับได้ทุกเมื่อ




Source - cache | Page ID - 20301

Get instant Updates in Telegram