คุณจะทำเงินจากการเทรด
CFD ได้หรือไม่

วิธีทำเงิน
จากการเทรด CFD

คุณสามารถใช้ สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) เพื่อเทรดตราสารทางการเงินได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ฟอเร็กซ์ หุ้นทั่วโลก ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโตเคอเรนซี่ เป็นต้น ในช่วงหลายปีมานี้ การเทรด CFD ได้รับความนิยมในฐานะการเทรดที่ใช้ทุนน้อย และนอกจากนี้ประโยชน์ของการเทรด CFD ยังรวมถึงความสามารถในการทำเงินอย่างมีศักยภาพทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง

เมื่อการเทรด CFD เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข่าวลือหนาหูว่ามีคนได้เงินก้อนใหญ่จากการเทรดนี้ก็เพิ่มมากขึ้น แต่ก็เหมือนกับการเทรดฟอเร็กซ์ ที่ความเป็นจริงคือความสำเร็จเหล่านั้นไม่สามารถการันตีได้ การจะเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้นั้นอาศัยการทำงานอย่างหนักและวิธีการมองตลาด CFD อย่างสมเหตุสมผล สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจความเสี่ยงพื้นฐานในการเทรด CFD และใช้ประโยชน์จากความรู้นี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำเงินในตลาด

What Makes CFD
Trading Risky?

หนึ่งในข้อดีที่น่าสนใจของการเทรด CFD คือความสามารถในการเทรดสินทรัพย์ที่ใช้อ้างอิงในมูลค่าที่ตราไว้ โดยไม่ต้องลงทุนเต็มมูลค่าสินทรัพย์ ซึ่งหมายความว่า CFD มีเลเวอเรจสูงและสามารถให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นแก่เทรดเดอร์ได้ การใช้ เลเวอเรจและมาร์จิ้นทำให้คุณสามารถเปิดสถานะด้วยเศษเสี้ยวของมูลค่าสินทรัพย์ และยังสามารถรับประโยชน์จากการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นตามมาทั้งหมดในตลาดได้อีกด้วย โบรกเกอร์ CFD ได้ออกข้อกำหนดของมาร์จิ้นอย่างเคร่งครัด

แต่เลเวอเรจและมาร์จิ้นนี้ก็เพิ่มความเสี่ยงเช่นกัน ทั้งเลเวอเรจและมาร์จิ้นอาจทำให้ขาดทุนได้อย่างมหาศาลหากตลาดเคลื่อนไหวตรงกันข้ามกับที่คุณคาดการณ์ รวมถึงถ้าคุณมีการจัดการกับความเสี่ยงไม่เพียงพอ การขยับลงเพียงนิดเดียวสามารถทำให้การเทรดที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้กลายเป็นความล้มเหลวได้อย่างง่ายดาย หรือถึงขั้นส่งผลให้ยอดเงินคงเหลือติดลบ

หากคุณต้องการจะเพิ่มโอกาสในการทำเงินในตลาดและลดความเสี่ยง สิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้คือพื้นฐานของการเทรด CFD ที่ดี ซึ่งรวมถึงการทำความเข้าใจคุณสมบัติของการเป็นเทรดเดอร์ CFD ที่ดีและข้อควรระวังทั่วไปที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อทำการเทรด ไม่ว่าคุณจะเป็นมืออาชีพหรือแค่เทรดรายวันก็ตาม

เทรดเดอร์ CFD ที่ดีเป็นอย่างไร

มีสิ่งจำเป็นบางอย่างที่จะช่วยให้คุณอยู่ในเส้นทางที่นำไปสู่ความสำเร็จในตลาดการเงิน เช่นเดียวกับการลงทุนประเภทอื่นๆ

1. ความรู้

นอกจากการเทรด CFD จะมีความเสี่ยงสูงแล้ว ยังแตกต่างจากตลาดอื่นอีกด้วย การใช้เลเวอเรจกับ CFD นั้นแตกต่างจากการเทรดแบบอื่น เพราะคุณต้องกังวลกับช่องว่างของราคาและค่าธรรมเนียมการซื้อขายข้ามคืน รวมถึง สเปรดที่กว้างขึ้น และมาร์จิ้นคอลก็อาจเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ความรู้คือหัวใจหลักในการทำเงินจากการเทรด CFD คุณต้องรู้วิธีการรับมือกับความซับซ้อนของ CFD

สิ่งสำคัญคือการศึกษาตลาดก่อนเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้ในการทำเงิน คุณไม่ควรหยุดเรียนรู้ ตลาด CFD มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา และหากคุณต้องการสร้างความสำเร็จที่ต่อเนื่อง คุณก็ต้องรับรู้ถึงกลยุทธ์และเทคนิคใหม่ๆ รวมถึงต้องสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายอีกด้วย

2. การวางแผนและกลยุทธ์

การเทรด CFD ต้องใช้วิธีการที่มีระเบียบวินัย คุณต้องมีแผนการเทรดที่ไตร่ตรองมาอย่างดีและมีการอัพเดทอยู่เสมอ พร้อมๆ กับการฝึกฝนทักษะและเพิ่มพูนประสบการณ์ของตัวเอง คุณยังต้องทดลองและทดสอบกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับรูปแบบการเทรดและระดับความเสี่ยงที่คุณรับได้ หากไม่มีแผนและกลยุทธ์ ก็เหมือนคุณแค่เล่นพนันและโยนศักยภาพในการทำเงินทิ้งไปเสียเฉยๆ

3. การฝึกฝน

ส่วนหนึ่งของการเป็นเทรดเดอร์ที่มีระเบียบวินัยเหนือกว่าใคร คือความสามารถในการใช้เวลาไปกับการฝึกฝนแทนที่จะลงสนามแล้วเริ่มเทรดตราสารมากมายใกล้เอื้อมมือของคุณโดยทันที การฝึกฝนเป็นเดือนๆ ใน บัญชีทดลองอาจฟังดูน่าเบื่อ แต่ช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้จะพัฒนานิสัยที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจและตระหนักถึงอารมณ์ของตัวเองอยู่ตลอดเมื่อคุณเริ่มเทรดจริง

การรู้ว่าอะไรคือคุณสมบัติของเทรดเดอร์ที่ดียังไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการเทรด CFD อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการรู้และทำความเข้าใจกับข้อผิดพลาดหลักๆ เกี่ยวกับตลาด CFD

คุณควรหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง
เมื่อเทรด CFD

1. Using Margin and Leverage
Incorrectly

ตามที่กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ มาร์จิ้นและเลเวอเรจมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถึงแม้เครื่องมือเหล่านี้จะสามารถเพิ่มกำไรให้คุณได้ แต่คุณก็อาจสูญเสียเงินลงทุนเริ่มแรกทั้งหมดหรือมากกว่านั้นได้เช่นกัน

ลองพิจารณาตัวอย่างนี้ หากหุ้น Google มีการเทรดที่หุ้นละ $1,000 คุณจะต้องมีเงิน $100,000 จึงจะซื้อหุ้น 100 หุ้นได้ สมมติว่าคุณตัดสินใจซื้อสัญญา CFD 100 ฉบับด้วยมาร์จิ้น 5% หรือเลเวอเรจในอัตรา 20:1 คุณจะต้องการเงินสำหรับเปิดสถานะเพียง $5,000 เท่านั้น ถ้าราคาขยับไปที่ $1,070 และคุณตัดสินใจปิดสถานะของคุณ คุณจะได้รับเงิน $7,000 (100 หุ้น x [$1,070 - $1,000]) สำหรับการลงทุน $5,000 ของคุณ คุณจะทำกำไรได้ $2,000 หรือได้เงินเพิ่มถึง 40%

เมื่อซื้อสัญญา CFD นั่นหมายความว่าคุณเชื่อว่าราคาของสินทรัพย์ที่ใช้อ้างอิงจะเพิ่มขึ้น แล้วถ้าราคามันลดลงล่ะ ดูตัวอย่างนี้ต่อ ถ้ามูลค่าของหุ้นลดลง $70 การขาดทุน $7,000 จะเกินกว่าเงินลงทุนไป $2,000 ก่อนจะคำนวนสเปรดและค่าธรรมเนียมต่างๆ เข้าไปด้วย กรณีนี้คุณจะได้รับมาร์จิ้นคอล

เมื่อทำการเทรด CFD คุณมีความเสี่ยงที่จะได้รับมาร์จิ้นคอลมากกว่าเมื่อเทียบกับการเทรดรูปแบบอื่นๆ การใช้เลเวอเรจและมาร์จิ้นอย่างรอบคอบคือสิ่งสำคัญ เริ่มต้นจากเล็กๆ เรียนรู้จากความผิดพลาดช่วงต้นของคุณ แล้วค้นหาวิธีการใช้เลเวอเรจและมาร์จิ้นของตัวเองไปพร้อมกับการสั่งสมประสบการณ์

2. Ignoring Risk and Money
Management

กฎการจัดการความเสี่ยงและเงินมีขึ้นเพื่อช่วยให้คุณเทรดในวันต่อไปได้แม้จะประสบกับการขาดทุนในวันนี้ กฎเหล่านี้จะช่วยคุณตัดสินใจว่าจะรับมือกับความเคลื่อนไหวบางอย่างของตลาดและใช้ประโยชน์จากความเคลื่อนไหวนั้นอย่างไร

การเทรดที่ประสบความสำเร็จไม่ได้เกี่ยวกับจำนวนกำไรหรือขาดทุน แต่เกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้ชดเชยการขาดทุนด้วยกำไร กฎการจัดการความเสี่ยงและเงินอันดับต้นๆ บางส่วนที่ควรจดจำไว้ ได้แก่:

  • การตั้งค่าคำสั่งทำกำไร (take-profit) และคำสั่งหยุดการขาดทุน (stop-loss) คำสั่งหยุดการขาดทุนเป็นการบังคับให้ออกในระดับที่จะช่วยคุณลดการขาดทุนได้ คำสั่งทำกำไร (คำสั่งลิมิตราคา หรือ limit order) จะช่วยคุณล็อคกำไรในกรณีที่ตลาดเกิดเข้าสู่ขาลงกระทันหัน คุณควรมีเหตุผลในการตั้งค่าคำสั่งในระดับต่างๆ ทุกครั้ง และคุณไม่ควรตกหลุมพรางแล้วเปลี่ยนระดับคำสั่ง ระเบียบวินัยคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ

  • ตัดสินใจว่าจะเปิดและปิดสถานะเมื่อใด คุณควรกำหนดระดับที่คุณจะเข้าและออกจากการเทรดก่อนเปิดสถานะ คุณควรมีระดับการออกจากการเทรดสองระดับ หนึ่งระดับสำหรับเมื่อตลาดเคลื่อนไหวตามที่คุณต้องการ (คำสั่งทำกำไร) และอีกระดับเมื่อตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับที่คุณต้องการ (คำสั่งหยุดการขาดทุน) ระดับเหล่านี้ควรเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ด้านความเสี่ยง/ผลตอบแทนของคุณด้วย

  • รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรปิดการเทรดที่ขาดทุน การขาดทุนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการเทรด สิ่งสำคัญคือการรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรปล่อยให้กำไรสูงขึ้น และเมื่อไหร่ที่ควรหยุดการขาดทุนก่อนที่จะเสียหายมากไปกว่านั้น การนำอารมณ์ออกจากการเทรดแล้วใช้แต่เหตุผลเป็นสิ่งจำเป็น เมื่อต้องนำตัวเองออกจากการเทรดที่ขาดทุน

มุมมองต่อการจัดการความเสี่ยงและเงินที่สำคัญที่แยกเทรดเดอร์ผู้มีระเบียบวินัยที่ประสบความสำเร็จออกจากเทรดเดอร์ที่เทรดโดยไม่รอบคอบและมักจะขาดทุนอยู่บ่อยๆ คือความสามารถในการปฏิบัติตามกฎ

3. การเทรดเกินกำลัง (Overtrading)

การเทรดเกินกำลังเกิดขึ้นเมื่อเทรดเดอร์รับรู้ว่าตนมีโอกาสทำเงินในตลาด ซึ่งไม่ใช่เพราะพวกเขามีโอกาสจริงๆ แต่เป็นเพราะพวกเขาต้องการโอกาสตรงนั้น การเทรดเกินกำลังมีสองประเภท นั่นคือ การเทรดที่มากเกินไป และการเทรดที่บ่อยเกินไป

  • การเทรดที่มากเกินไป

    ปกติแล้วการเทรดประเภทนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเทรดเดอร์ใช้เลเวอเรจเกินกำลังเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในช่วงเวลาที่สั้นที่สุด ในหลายๆ กรณีจะจบลงที่เทรดเดอร์เพิ่มการขาดทุนให้ตัวเองแทน

  • การเทรดที่บ่อยเกินไป

    การเทรดประเภทนี้เกิดขึ้นเมื่อเทรดเดอร์ไม่ต้องการพลาดอะไรเลย และเปิดการเทรดแม้ว่าจะไม่ควรเปิด เทรดเดอร์เหล่านี้ไม่เข้าใจว่าการเทรดที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนการเทรด แต่อยู่ที่การเทรดในครั้งที่เหมาะสม

ข้อมูลสรุปสำคัญเกี่ยวกับการเทรดเกินกำลังคือ ต้องทดสอบกลยุทธ์ในสภาพการเทรดไร้ความเสี่ยงก่อนเสมอ ด้วยวิธีนี้ คุณจะฝึกฝนจนรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรเทรด และรู้วิธีการใช้เลเวอเรจที่เหมาะสม

4. ไม่มีการจัดระเบียบ

การเทรด CFD นั้นเกี่ยวข้องกับการจัดระเบียบมากพอๆ กับการรู้และเข้าใจถึงรายละเอียดที่ซับซ้อนของตลาด การจัดระเบียบส่วนใหญ่แล้วเป็นผลพวงมาจากการมีแผนการเทรดที่รอบคอบ ซึ่งจะช่วยคุณลดหรือกำจัดความไม่มีแบบแผนในการเทรดของคุณได้ หากไม่มีแผน เงินในบัญชีของคุณก็อาจหายไปทั้งบัญชีก่อนที่คุณจะมีโอกาสทำเงินใดๆ ได้

แผนที่คุณวางไว้ต้องมีสิ่งจำเป็นต่างๆ เช่น

  • เค้าโครงการคาดการณ์ระยะยาว เป้าหมาย และจุดหมายที่ชัดเจน ซึ่งทั้งหมดนั้นต้องมีโอกาสเป็นไปได้

  • แผนการจัดการความเสี่ยงและเงิน

  • กลยุทธ์การเทรดที่สมเหตุสมผลที่ผ่านการทดสอบย้อนกลับแล้ว

การจัดระเบียบด้วยการบันทึกข้อมูลการเทรดอยู่เสมอก็เป็นวิธีที่ดีเช่นกัน บันทึกการเทรดจะช่วยคุณเก็บบันทึกสิ่งเหล่านี้:

  • ตราสารที่คุณเทรดและเหตุผลที่เลือกตราสารนั้น ตัวอย่างเช่น คุณใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน

  • เวลาที่คุณเข้าและออกจากการเทรด

  • เทรดนั้นได้ผลกำไรหรือไม่

  • วิธีที่คุณรับมือกับอารมณ์ของตัวเองในระหว่างการเทรดที่ยากเป็นพิเศษ เช่น ในตลาดที่มีความผันผวน

  • บทเรียนที่คุณได้จากการจัดการการเทรดโดยรวมของคุณ

เคล็ดลับสำคัญที่จะให้โอกาสที่ดีที่สุดเพื่อให้คุณประสบความสำเร็จในตลาด คือการเชื่อมั่นในสิ่งที่คุณรู้และมีประสบการณ์กับสิ่งนั้นมากที่สุด ขยับไปยังด้านอื่นเมื่อคุณมีความรู้มากพอแล้วเท่านั้น และคุณต้องฝึกฝนการเทรดในด้านใหม่ๆ เหล่านั้นด้วย

5. ไม่ติดตามการเทรดของคุณ

ตลาด CFD ซับซ้อนมาก ด้วยข้อกำหนดเงินทุนเริ่มต้นที่ต่ำ การเปลี่ยนแปลงของราคาที่รวดเร็วนอกเวลาการเทรด และตลาดที่ไม่แน่นอน สิ่งเหล่านี้สามารถเปลี่ยนสถานะที่ทำกำไรและยอดเงินคงเหลือในบัญชีของคุณได้ในชั่วพริบตา ส่วนต่างของราคาอาจทำให้คำสั่งหยุดขาดทุนของคุณเป็นโมฆะและอาจเกิดมาร์จิ้นคอลขึ้นได้ การติดตามบัญชีของคุณอย่างต่อเนื่องมีความสำคัญมาก ด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถรับมือและดำเนินการเมื่อจำเป็นได้

6. การเพิกเฉยต่อการกระจายความเสี่ยง

การลงทุนแบบมีเลเวอเรจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในการเทรด CFD นั้นมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากตลาดมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว คุณควรเทรดอย่างระมัดระวัง หนึ่งในวิธีหลักๆ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงคือการกระจายความเสี่ยง โดยการกระจายความเสี่ยงให้ทั่วตราสารต่างๆ และตลาดทั่วโลกนั้นสำคัญมาก

ด้วยวิธีนี้ คุณจะมีตัวลดความเสียหายในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่คาดคิดในตลาด ตัวอย่างเช่น เมื่อเกิดวิกฤตทางการเงินขึ้นในปี 2008 เทรดเดอร์ที่มีพอร์ตแบบกระจายได้รับความเสียหายน้อยกว่าเทรดเดอร์ที่มีพอร์ตซึ่งรวมทุกอย่างไว้ในตราสารชนิดเดียว

คุณจะเริ่มต้นการเทรด
CFD ได้อย่างไร

เมื่อคุณมีแผนการเทรดและคุณรู้ว่าจะต้องระวังความผิดพลาดอะไรบ้าง ก็ถึงเวลาเริ่มการเทรดแล้ว คุณต้องเลือกผู้ให้บริการ CFD หรือโบรกเกอร์ CFD ที่เหมาะสมเพื่อเริ่มต้น คุณสมบัติของโบรกเกอร์ที่คุณเลือกเทรด CFD ด้วยจะช่วยทำให้ขั้นตอนการเทรดง่ายขึ้น และช่วยเพิ่มโอกาสที่คุณจะได้รับกำไรจากการเทรด อีกสิ่งที่สำคัญคือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ดังกล่าวตรงกับความคาดหวังและข้อกำหนดในการเทรดของคุณ เมื่อคุณเปิดบัญชีการเทรด CFD โบรกเกอร์ CFD ยังต้องตรงกับรูปแบบการเทรดของคุณ รวมถึงต้องมีเครื่องมือและความช่วยเหลือที่เหมาะสมให้คุณอีกด้วย

จากข้อกำหนดหลายๆ ข้อ โบรกเกอร์ควรตรงตามข้อกำหนดต่อไปนี้

  • การกำกับดูแล ตรวจสอบยืนยันว่าโบรกเกอร์ดังกล่าวมีการกำกับดูแล เพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนของคุณมีความปลอดภัย

  • ค่าธรรมเนียมและคอมมิชชันที่เหมาะสม คุณต้องการโบรกเกอร์ที่มีการกำหนดราคาที่โปร่งใส คุณควรเลือกโบรกเกอร์ที่ให้สเปรดและค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม โดยไม่เสียคุณภาพการเทรด

  • ตัวเลือกสำหรับแพลตฟอร์มและเครื่องมือการเทรด แพลตฟอร์มและเครื่องมือการเทรดที่ดีจะช่วยพัฒนาคุณภาพการเทรดของคุณได้อย่างต่อเนื่อง

  • มีตราสารการเงินและเงื่อนไขการเทรดให้เลือกมากมาย เลือกโบรกเกอร์ที่ให้บริการตราสารและมีเงื่อนไขที่เหมาะกับคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการเทรด CFD หุ้นโดยไม่จ่ายค่าธรรมเนียมใดๆ เพิ่มเติม คุณจะต้องหลีกเลี่ยงโบรกเกอร์ที่ไม่มีบริการ CFD สำหรับหุ้นและโบรกเกอร์ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการเข้าถึงตัวเลือกนี้

  • แหล่งข้อมูลการศึกษาคุณภาพสูง การเรียนรู้อยู่ตลอดคือสิ่งที่จำเป็นต้องมี หากต้องการประสบความสำเร็จในการเทรด ค้นหาโบรกเกอร์ที่มีแหล่งข้อมูลการศึกษาที่ยอดเยี่ยม

  • การช่วยเหลือลูกค้าที่เหนือระดับ โบรกเกอร์ที่ดีคือโบรกเกอร์ที่เข้าถึงได้ง่ายเมื่อคุณต้องการพวกเขา ไม่ใช่เมื่อถึงเวลาเหมาะสมกับพวกเขาเท่านั้น หนึ่งวิธีในการดูว่าการช่วยเหลือของโบรกเกอร์ดังกล่าวดีแค่ไหน คือการอ่านรีวิวจากลูกค้า

เมื่อเลือกโบรกเกอร์แล้ว คุณจะสามารถเปิดบัญชีทดลองแล้วเริ่มฝึกได้ จะรอบคอบกว่าถ้าคุณทำการฝากเงินครั้งแรกแล้วเริ่มเทรดจริงเมื่อคุณมั่นใจและมีแผนที่ดีแล้วเท่านั้น

Is it Possible to Make Money
with CFD Trading?

คำตอบง่ายๆ สำหรับคำถามนี้คือ ใช่ คุณสามารถทำเงินจากการเทรด CFD ได้ ส่วนคำตอบที่ยาวและสมจริงกว่าคือ คุณต้องเพิ่มทักษะการเทรดของคุณก่อน รวมถึงต้องมีระเบียบวินัย ฝึกฝน และต้องอดทนอย่างมากจึงจะไปได้ดีในตลาดนี้ การเทรด CFD ที่ประสบความสำเร็จนั้นเป็นไปได้ คุณเพียงแค่ต้องทำให้ถูกต้องเท่านั้น

คลิกที่นี่เพื่อเปิดบัญชีทดลองแล้วเทรด CFD กับ FP Markets

เริ่มต้นเทรด
ได้ในไม่กี่นาที

bullet เข้าถึงตราสารทางการเงินกว่า 10,000 รายการ
bullet เปิดและปิดสถานะอัตโนมัติ
bullet ข่าวสารและปฏิทินเศรษฐกิจ
bullet เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและกราฟ
bullet มีเครื่องมือเพิ่มเติมอีกมากมาย

การให้อีเมลของคุณ แสดงถึงว่าคุณยอ มรับในนโยบายความเป็ นส่วนตัวของ FP Markets และจะรับสื่อการตลาดในอนาคตจาก FP Markets คุณสามารถยกเลิกการสมัครรับได้ทุกเมื่อ




Source - database | Page ID - 20300

Get instant Updates in Telegram